อัพไซด์ตลาดระยะสั้นจำกัด หลังใกล้ 1,600 และเข้าสู่ช่วงหยุดยาว 

อัพไซด์ตลาดระยะสั้นจำกัด หลังใกล้ 1,600 และเข้าสู่ช่วงหยุดยาว 

IMF ปรับลด GDP โลกปี 66-67 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มองเศรษฐกิจโลกสร้างฐานต่ำสุดในปีนี้ที่ 2.8% (จากคาดการณ์เดิม 2.9%) ก่อนฟื้นตัวในปี 67 เป็น 3.0% (จากคาดการณ์เดิม 3.1%)

ทั้งนี้ ภาพรวมเป็นการปรับประมาณการขึ้นในประเทศกลุ่ม Advanced Economies โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป  ขณะที่ปรับประมาณการลงในกลุ่ม Emerging Market and Developing Economies โดยเฉพาะอินเดีย, รัสเซีย, บราซิล, กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เป็นต้น โดยคงประมาณการ GDP จีนปี 66-67 ที่ 5.2% และ 4.5% ตามลำดับ สำหรับประเทศไทย ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 66-67 เหลือ 3.4% และ 3.6% (จากคาดการณ์เดิมที่ 3.7% และ 3.6%)

 

ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ วันนี้ คาด CPI มี.ค. ออกมา +0.2% MoM และ 5.1% YoY (ชะลอจาก ก.พ.ที่ +0.4% moM และ +6.0% YoY) เงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงจะเป็นบวกต่อความคาดหวังการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเรามองตลาดมีโอกาสตอบรับต่อเงินเฟ้อดังนี้ 1) ตัวเลขออกมาต่ำกว่า 5.1% คาดตลาดบวก 2) เงินเฟ้อออกมา 5.1-5.4% ตลาดลบเล็กน้อย 3) เงินเฟ้อสูงกว่า 5.4% คาดตลาดลบราว 1% จากโอกาสที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

 


 

ยังมองธีมการลงทุนเป็นการหมุนออกจากดอกเบี้ยขาขึ้น เข้าสู่ดอกเบี้ยใกล้สูงสุด เรามองธีมการลงทุนที่น่าสนใจได้แก่ 1) เงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงและต้นทุนสินค้าต่างๆที่ชะลอลงตามราคาพลังงาน จะเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้บริโภค ส่งผลบวกต่อหุ้นค้าปลีก 2) การเข้าใกล้จุดสูงสุดของวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ย จะจำกัดการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นปลอดภัย (Defensive) ทั้งหุ้นไฟฟ้า สาธารณูปโภค รวมถึงสื่อสาร 3) การย้ายฐานการผลิต เพื่อลดความเสี่ยงความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งกระแสการลงทุนใน EV บวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม 4) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนการผลิตที่ลดลง โดยมีหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPALL, MAKRO, BJC, WHA, AMATA, ROJNA, PTG, OR, MAJOR, SPA, ERW, VRANDA, BGC, M, SORKON, SNP, BGRIM, GPSC, GULF, GUNKUL, ADVANC 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศเก็งกำไรระยะสั้นเป็นบวก แม้ภาพรวมตลาดระยะสั้นยังอาจผันผวนจากปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบ ซึ่งรวมถึงการปรับลด GDP ของ IMF การเก็งกำไรระยะสั้น อาจเลือกไฟแนนซ์ตัวเล็กที่ยัง Laggard  น้ำตาลและกลุ่มไฟฟ้าหมุนเวียน (ที่มีรายได้งานก่อสร้าง/EPC)  ขณะที่การลงทุนเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) 

หุ้นแนะนำ: AMANAH*, SCAP*, ROJNA*, KSL*

แนวรับ: 1,577 / แนวต้าน : 1,604-1,623 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

 

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

สภาสูงสวิสไฟเขียวค้ำประกันการเงินอุ้ม เครดิต สวิส - วุฒิสภาสวิตเซอร์แลนด์ลงมติให้การอนุมัติการค้ำประกันทางการเงินจำนวน 1.09 แสนล้านฟรังก์สวิสสำหรับมาตรการช่วยเหลือเครดิต สวิส

BofA ชี้ศก.สหรัฐชะลอตัวต่อเนื่อง เสี่ยงหดตัวใน Q2/66 - แบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบอล รีเสิร์ช (BofA Global Research) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะหดตัวในไตรมาสที่ 2/2566 ตามข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่บอกเป็นนัยว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

คลังสหรัฐมั่นใจภาคธนาคารยังแกร่ง – โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของต่างประเทศเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงิน หลังจากการล่มสลายของธนาคารบางแห่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ จะเป็นเครื่องเตือนใจให้สหรัฐเร่งผลักดันกฎระเบียบที่ยังไม่แล้วเสร็จ รวมถึงแก้ไขปัญหาและอุดช่องโหว่ของกฎระเบียบทางการเงินเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

ราคาน้ำตาล – ราคาตลาดโลกล่าสุดปรับขึ้น 24.53 เซนต์/ปอนด์ ทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี ด้วยปริมาณการหีบอ้อยในไทยที่สูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ราคาน้ำตาลตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงาน

 

ประเด็นติดตาม: 12 เม.ย. - US CPI, FOMC Meeting Minutes / 13 เม.ย. - US PPI / 14 เม.ย. - US Retail Sales / 18 เม.ย. – US Building Permits / 19 เม.ย. – EU CPI / 20 เม.ย. – US Existing Home Sales / 25 เม.ย. – US New Home Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)