วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 เม.ย. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับลด หลังนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือน พ.ค. จากการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดและตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงเผชิญภาวะถดถอย และกดดันความต้องการใช้น้ำมัน
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้น และน่าสนใจลดลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
+ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนมีโอกาสการขยายตัวถึง 4.0% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าระดับ 2.9% ของไตรมาส 4/2565 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศ หลังยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งทางการจีนจะรายงานข้อมูลอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันเบนซินมากขึ้น อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียยังคงได้รับแรงหนุนจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนผลิตและส่งออกน้ำมันดีเซลมากขึ้น ส่งผลให้อุปทานในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางอุปสงค์ในอินเดียที่แข็งแกร่งจากกิจกรรมการเดินทางที่ฟื้นตัว