อัปเดต ‘เทรนด์สุขภาพปี 2025’ ปีแห่งการเปลี่ยนโฉมดูแลสุขภาพ

อัปเดต ‘เทรนด์สุขภาพปี 2025’  ปีแห่งการเปลี่ยนโฉมดูแลสุขภาพ

“Medical Hub” เป็นหนึ่งในนโยบายขับเคลื่อนของประเทศไทย โดยมีร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติในปี 2568-2577

KEY

POINTS

  • เทรนด์สุขภาพจะตอบสนองความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบันมากขึ้น และเน้นช่วยการสร้างสุขภาพที่ดี และยั่งยืนสำหรับทุกคนในระยะยาว
  •  5 เทรนด์สุขภาพมาแรง และ10 นวัตกรรมด้านสุขภาพที่น่าจับตามอง ในปี 2025 เน้นปรับสมดุลทั้งร่างกาย และจิตใจ 
  • ปี 2025 จะเป็นปีที่เปลี่ยนโฉมหน้าการดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง เป็นปีที่เข้าสู่ยุคใหม่แห่งการดูแลสุขภาพที่มีความแม่นยำ และเข้าถึงได้ง่าย

Medical Hub” เป็นหนึ่งในนโยบายขับเคลื่อนของประเทศไทย โดยมีร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติในปี 2568-2577 ด้วยยุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมการแพทย์แบบครบวงจร พัฒนาระบบนิเวศส่งเสริมการตลาด และประชาสัมพันธ์ ด้วยกลไกในการขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทย

โดยมีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานใน 5 ผลผลิตหลัก ได้เเก่

1.ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub)

2.ศูนย์กลางบริการรักษาพยาบาล (Medical Service Hub )

3.ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub)

4.ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub)

5.ศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการด้านการแพทย์และสุขภาพ (Health Convention and Exhibition Hub)

ขณะที่ Global Wellness Institute (GWI) ได้แบ่งเศรษฐกิจเวลเนสเป็น 11 สาขา โดยประเทศไทยในปี 2565 มี 4 ลำดับแรกที่สร้างมูลค่าการตลาดมากกว่า 87% คือ 1. Healthy Eating, Nutrition, & Weight Loss 2. Wellness Tourism 3. Personal Care & Beauty และ 4. Traditional & Complementary Medicine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

MSU-8 รถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ เพิ่มโอกาสรอด ลดเสียชีวิต Stroke

ดับฝัน 'ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วไทย' บอร์ดค่าแรง เคาะ 4 จ.1 อ. มีผล 1 ม.ค.2568

5 เทรนด์สุขภาพมาแรงปี 2025

“พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี” ผู้อำนวยการศูนย์ Premier Life Center โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า ปี 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้เป็นปีที่น่าจับตามอง เพราะจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการแพทย์อย่างมากมาย เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เข้ามาพลิกโฉมการดูแลสุขภาพให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้เราเข้าถึง และเข้าใจข้อมูลสุขภาพได้ง่ายขึ้น โดย 5 เทรนด์สุขภาพปี 2025 ที่คาดว่าจะเป็นนิยม ได้แก่ 

1. Gut Health การดูแลลำไส้เป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพองค์รวม ด้วยการใช้โปรไบโอติก พรีไบโอติก และผลิตภัณฑ์ที่เสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ และส่งเสริมภูมิคุ้มกัน

2.Epigenetics การวิเคราะห์เหนือระดับยีนเพื่อปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และพฤติกรรมเฉพาะบุคคล เช่น อาหารที่ตอบโจทย์ระดับเหนือพันธุกรรม เพื่อส่งเสริมสุขภาพในระดับเซลล์ 

3.Immune System การตรวจวัด NK Cell จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ภูมิคุ้มกัน พร้อมกับผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับทุกวัย 

4.Functional Wellness ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนช่วยเพิ่มพลังงาน และสมรรถภาพทางร่างกาย และจิตใจ จะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน 

5.Personalized Wellness การใช้เทคโนโลยี เช่น AI และ IOT เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล สร้างสุขภาพที่สมดุล และยั่งยืนสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย เช่น การออกแบบโภชนาการ และแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล

อัปเดต ‘เทรนด์สุขภาพปี 2025’  ปีแห่งการเปลี่ยนโฉมดูแลสุขภาพ

เน้นปรับสมดุลร่างกาย-จิตใจ

“พญ.กอบกุลยา” กล่าวต่อว่าปี 2025 เทรนด์การดูแลสุขภาพจะเน้นการปรับสมดุลของร่างกาย และจิตใจ โดยใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกัน และส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตในระยะยาว ดังนั้น การดูแลสุขภาพไม่ควรเริ่มเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย แต่ควรเริ่มต้นด้วยการป้องกัน เช่น การพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ

“เทรนด์สุขภาพจะตอบสนองความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบันมากขึ้น และเน้นช่วยการสร้างสุขภาพที่ดีและยั่งยืนสำหรับทุกคนในระยะยาว เช่น การให้สำคัญกับการดูแลระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพราะระบบภูมิคุ้มกัน เปรียบเสมือนกองทัพของร่างกายที่พร้อมปกป้องเชื้อโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือไวรัสโดยภูมิคุ้มกันสามารถจัดการเชื้อโรคขนาดเล็กได้ง่าย แต่สำหรับเชื้อโรคขนาดใหญ่ เช่น ก้อนเนื้องอก จำเป็นต้องใช้ภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งมากขึ้น การตรวจระดับภูมิคุ้มกัน NK Cells เป็นตัวชี้วัดความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรค และเซลล์อันตราย” พญ.กอบกุลยา กล่าว

นอกจากนั้น จะเน้นการประเมินผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสม ซึ่งสามารถลดค่า NK Cell Activity และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ แม้ว่าการวัดค่า NK Cell Activity จะไม่สามารถบอกถึงโรคที่เป็นอยู่ได้โดยตรง แต่สามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อประเมินปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในร่างกายได้

ดูแลสุขภาพ-รักษาเฉพาะบุคคล

“พญ.กอบกุลยา” กล่าวต่อว่า เทรนด์ที่น่าสนใจมากๆ คือ การดูแลสุขภาพ และการรักษาแบบเฉพาะบุคคล หรือ Personalized Wellness ซึ่งกำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสุขภาพไทยและทั่วโลก ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และจีโนมิกส์ ที่ช่วยให้การวินิจฉัย และการรักษามีความแม่นยำ และตรงจุดมากขึ้น

“Personalized Wellness เหมาะอย่างมากเมื่อประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง และโรคร้ายแรง Personalized Wellness จะมุ่งเน้นการนำข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ประวัติสุขภาพ และพันธุกรรม มาออกแบบแผนการดูแลที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ตั้งแต่การคัดกรองความเสี่ยง การให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง และเพิ่มโอกาสฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย”พญ.กอบกุลยา กล่าว

10 นวัตกรรมด้านสุขภาพ

ขณะที่ ข้อมูลจาก “โรงพยาบาลเมดพาร์ค” เปิดเผยถึง “10 นวัตกรรมด้านสุขภาพที่น่าจับตามอง ปี 2025” พบว่ามีดังนี้ 

1.การรักษาที่แม่นยำ และจำเพาะเจาะจง (Precision Medicine)

2. การดูแลสุขภาพทางไกล (Telehealth)

3. เทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพจิต (Mental Health Tech)

4. อุปกรณ์สวมใส่เพื่อติดตามสุขภาพ (Wearable Health Tech)

5. งานวิจัยด้านสุขภาพลำไส้ และไมโครไบโอม

6. การเลือกดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม

7. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ในการตรวจวินิจฉัยโรค

8. แนวทางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และบูรณาการ

9. การทำให้การดูแลสุขภาพกลายเป็นเกม (Health Gamification)

10. การวิจัยจีโนมหรือข้อมูลพันธุกรรมขั้นสูง

ทั้งนี้ แนวโน้มด้านสุขภาพในปี 2025 จะสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสุขภาพ โดยการรักษาจะมีความแม่นยำ และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เน้นการดูแลที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย และจิตใจ พร้อมทั้งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้การเข้าถึงข้อมูล และการรักษาพยาบาลง่าย และรวดเร็ว ฉะนั้น ปี 2025 จะเป็นปีที่เปลี่ยนโฉมหน้าการดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง เป็นปีที่เข้าสู่ยุคใหม่แห่งการดูแลสุขภาพที่มีความแม่นยำ และเข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีขึ้นอย่างมีคุณภาพ และยั่งยืน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์