น้ำมันกดตลาด หุ้นรายงานพิเศษ SKY (3 พ.ค. 66)
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จากแรงขายหุ้นกลุ่มการเงิน และกลุ่มอาหาร โดยนักลงทุนติดตามผลการประชุม FED นอกจากนี้มีการรายงานของสรท. เผยส่งออก 1Q66 หดตัว 4.5% พร้อมทั้งคาดว่าส่งออก 2Q66 หดตัว 2-3% ก่อนฟื้นใน 3Q66-4Q66
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,528.43 จุด -0.69 จุด -0.05% มูลค่าการซื้อขาย 39,980 ลบ.ต่างชาติ +1,486.64 ลบ. TFEX +9,799 สัญญา ตราสารหนี้ +13,806.43 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สหรัฐเปิดเผย คำสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.9% แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากร่วงลง 1.1%YoY ในเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนมี.ค. ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อเครื่องบิน
+ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวได้อีกมาก โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงรุกชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน รวมกว่า 3,000 กม. สามารถพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรมได้ ปี 2565 มีมูลค่ารายได้รวม 1.21 ล้านล้านบาท มีผู้มาเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 31 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 340,000 ล้านบาท คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,081 บาท/คน/วัน
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 367.17 จุด หรือ -1.08% กังวลวิกฤติภาคธนาคารของสหรัฐ ความกังวลว่า FED จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ และความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ปิดร่วงลง 4 ดอลลาร์ -5.3% ปิดที่ 71.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ลดลงแรงที่สุดในวันเดียว กังวลว่าสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ก่อนเส้นตายในวันที่ 1 มิ.ย. รวมทั้งวิตกว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
- ตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะชะลอตัวจากการเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนมี.ค. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
- FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 96.2% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 3.8% คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
- ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนมิ.ย.
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ เผยส่งออกไตรมาสแรกติดลบ 4.5% และปรับลดเป้าทั้งปีเหลือ 0-1% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาพลังงานผันผวน และอากาศทั่วโลกที่ร้อนจัดส่งผลกระทบต่อผลผลิตการเกษตร
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้อ่อนตัวลงตามดาวโจนส์ จากความกังวลว่าวิกฤติภาคธนาคารสหรัฐจะลุกลาม อีกทั้งคาดว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในคืนนี้เป็นปัจจัยกดดัน สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง 5% สู่ 72 $/bbl เป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มเติม มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,520-1,535 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
• จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
• โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาด : BCH CHG VIBHA EKH
• สินค้าส่งออกเดือนมี.ค.ที่ยังขยายตัว : KBS BRR KSL GFPT TFG SNC
หุ้นรายงานพิเศษ
SKY (Bloomberg Consensus - บาท)
ได้อานิสงส์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นโดยตรง
•ปี 65 มีกำไรเท่ากับ 209.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน เพิ่มขึ้น + 278.7%YoY โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (TKC) ราว 111.2 ล้านบาท
•คาดผลประกอบการปกติ 1Q66 จะเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปี จากการทยอยรับรู้ Backlog ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 2.2 หมื่นลบ. ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย เห็นได้จากจำนวนผู้โดยสารขาเข้า-ขาออก ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เฉลี่ย 180,000 คน/วัน หนุนรายได้ตรวจคนเข้าเมือง(APPS) และออกตั๋วขาออก (CUPPS) นอกจากนั้นยังมีแรงหนุนจากการขยายฐานลูกค้าภาคเอกชน ผ่าน Smart Security Platform ภายใต้ชื่อ TOSSAKAN (ทศกัณฐ์)โดยมุ่งเน้นเจาะตลาดความปลอดภัยของอาคาร
•เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาบอร์ดมีมติอนุมัติให้ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทร่วม ASL จำนวน 673,958 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 67.39 ลบ. โดยภายหลังเข้าทำรายการ SKY ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 42.12% โดย ASL เป็น Holding Company และได้ถือหุ้น 51% ใน AOTGA ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ AOT ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับประกอบกิจการให้บริการภาคพื้นอากาศยาน และผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT
•ความเห็น : เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 66 ของ SKY โดยได้อานิสงส์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นโดยตรง นอกจากนั้นยังมีประเด็นหนุนจากการที่ครม.ได้อนุมัติให้ AOT เปิดสรรหาเอกชนรายที่ 3 โครงการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น และงานบริการคลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงินรวมกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท ซึ่ง SKY ได้เตรียมส่ง AOTGA เข้าชิงงานบริการภาคพื้นวงเงิน 2.93 หมื่นล้านบาท มีอายุสัมปทาน 25 ปี ซึ่งจะเปิดประมูลมิ.ย.นี้
หุ้นมีข่าว
(+) AOT (Bloomberg consensus 82.00 บาท) โชว์ผู้โดยสาร-เที่ยวบิน ไตรมาส 2/2566 (ม.ค.-มี.ค. 2566) สูง 234% ลั่นแนวโน้มโตต่อ เร่งลดความแออัด นำเทคโนโลยี-นวัตกรรมเสริมศักยภาพงานภาคพื้น เปิดเครื่องเช็กอิน-เครื่องโหลดสัมภาระอัตโนมัติ พฤษภาคม 2566 นี้ ด้านวิทยุการบินคาดทั้งปี 2566 เที่ยวบินพุ่งแตะ 7.1 แสนเที่ยวบิน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PTG (Bloomberg consensus 16.00 บาท) เผยไตรมาส 2/2566 ฟอร์มสวย อานิสงส์กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นเด่น ดันยอดเติมน้ำมันพุ่ง อีบิทดาปีนี้ทะยาน 8-12% ขานรับกำไร "กลุ่มนอนออยล์" หนุน ชู "กาแฟพันธุ์ไทย" ผู้ใช้บริการพุ่งหลังยืนราคาขาย เดินหน้าเข็นธุรกิจกาแฟเข้าตลาดหุ้นเสริมแกร่งระยะยาว คาดชัดเจนในช่วงปี 2568 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) D (Bloomberg consensus 8.93 บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาสแรกโดดเด่น ต่างชาติตบเท้าเข้าใช้บริการเพียบ สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากก่อนหน้านี้ที่ 50% หนุนรายได้ปีนี้โต 20% กางแผนทุ่มงบ 5-7 ล้านบาท ขยายสาขาคลินิกทันตกรรมเพิ่มอีก 5 สาขา (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SABUY (Bloomberg consensus - บาท) ประกาศซื้อหุ้นคืนแบบจัดหนัก 1,090 ล้านบาท "ชูเกียรติ" ยืนยันควักเงินซื้อครบใน 2 เดือน ชี้ราคานี้คุ้มค่า ได้ดูแลผู้ถือหุ้นด้วย พร้อมลดทุนเพื่อสร้างผู้ถือหุ้น ยืนยันบริษัทมีเงินลงทุนต่อเนื่อง แย้มศึกษาซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีกหลังปรับโครงสร้างบริษัทลูก เปิดใจเอาไง SINGER หลังผู้บริหารลาออก (ที่มา ทันหุ้น)