จับตา CPI สหรัฐ หุ้นรายงานพิเศษ ADVANC (10 พ.ค. 2566)
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ทั้งในแดนบวกและลบ โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ธนาคาร พลังงาน นักลงทุนติดตามการรายงานผลการดำเนินงานที่ทยอยประกาศ นอกจากนี้ยังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนวันพุธ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,564.66 จุด +2.41 จุด +0.15% มูลค่าการซื้อขาย 52,795 ลบ.ต่างชาติ -3,591.20 ลบ. TFEX -8,259 สัญญา ตราสารหนี้ +25,199.14 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 73.71 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้นขณะรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
+ เฟด เปิดเผยรายงานด้านเสถียรภาพการเงินรอบครึ่งปี โดยระบุว่า ในภาพรวมนั้น ภาคธนาคารของสหรัฐยังคงอยู่ในสถานะที่ดี และสามารถต้านทานภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้
+ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือน เม.ย.66 พบว่า ดัชนีในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 15.1%MoM โดยยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว นักลงทุนมองว่าการเลือกตั้งในประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด
+ นายฉิน กัง รมว.ต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนจะยังคงทำการเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครน
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 56.88 จุด หรือ -0.17% นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการประชุมสภาพคองเกรสหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ พบปะกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ล่าสุดทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ และจะหารือเพิ่มเติมในวันศุกร์นี้
- ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่าเฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวลง และคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะต้องใช้เวลาอีก 2 ปีเพื่อให้กลับสู่ระดับ 2%
- รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนจะตอบโต้ EU หากมีการขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนตามมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย และจีนจะยังคงทำการเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครน
- สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ยังคงสถานะประเทศไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ต่ออีก 1 ปีจากข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับปัญหาการลักลอบบันทึกภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ การแอบอ้างสิทธิในการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ต ความล่าช้าในการดำเนินคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
- เว็บไซต์ DDproperty เผยภาพรวมดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ -10%QoQ -18%YoY โดยลดลงถึง 31% จากช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยยังชะลอตัวต่อเนื่อง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตาตัวเลข ดัชนี CPI สหรัฐคืนวันนี้ โดยตลาดคาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป จะเพิ่มขึ้น 5.0%YoY ในเดือนเม.ย ประกอบกับยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,560-1,570 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
• โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาด : BCH CHG VIBHA EKH
• สินค้าส่งออกเดือนมี.ค.ที่ยังขยายตัว : KBS BRR KSL GFPT TFG SNC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้งอยู่ในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง ค้าปลีก และนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ PYLON SEAFCO STEC CK CPALL MAKRO BJC WHA AMATA
หุ้นรายงานพิเศษ
ADVANC (Bloomberg Consensus 238 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 ใกล้เคียงตลาดคาด
•ADVANC ผลประกอบการใน 1Q66 มีรายได้เท่ากับ 46,712 ล้านบาท -4.1%QoQ ตามรายได้จากการขายอุปกรณ์และซิมลดลง -14%QoQ ตามช่วงเวลาการขายไอโฟน 14 ที่เริ่มชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน แต่ยังเติบโต +3.2%YoY เนื่องจากรายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น +11%YoY จากการขยายพื้นที่การให้บริการไปยังพื้นที่รอบนอกมากขึ้น บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,757 ล้านบาท ลดลง -8.2%QoQ จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิที่ลดลง โดยอยู่ที่ 62 ล้านบาทลดลงจาก 572 ล้านบาทในไตรมาสก่อน จากการที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง แต่เพิ่มขึ้น +7.1%YoY จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ EBITDA ร่วมกับต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
•ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการของบริษัทที่ทำออกมาได้ใกล้เคียงตลาดคาด โดยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มลดลง หลังการควบรวมของคู่แข่ง ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 3-5% และตั้งงบลงทุนที่ระดับ 27,000-30,000 ล้านบาท ในการพัฒนาคุณภาพบริการและโครงข่าย 5G เป็นหลัก ราคาหุ้นยังมี Upside จากราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) SINGER (Bloomberg consensus 23.50 บาท) วางเกมนำตู้เติมน้ำมันสินค้ายึดคืนเบอร์ 1 ทำเป็นปั๊มตามใจ นำตู้เวนดิ้งอื่นดึงดูดขาย 24 ชม. เริ่มแล้ว บุรีรัมย์ 60 ตู้ วางเป้าสิ้นปี 5,000 แห่ง ลั่นเน้นคุณภาพนำเทคโนโลยียืนยันตัวตน (EKYC) คุมหนี้เสีย ลดต้นทุนปีนี้ 20% ลดพนักงานสู่ 200 คน จาก 556 คน ด้าน SGC พร้อมกด NPL ให้ต่ำกว่า 5% ออกสินเชื่อใหม่ 3 ผลิตภัณฑ์ รุกผ่อนทอง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) INSET (Bloomberg consensus 3.12 บาท) ลุ้นผลประมูลงาน ดาต้า เซ็นเตอร์ ภาคเอกชน ปลายไตรมาส 2/2566 ถึงต้นไตรมาส 3/2566 เผยปีนี้ประมูลงานไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานเอกชน เดินหน้าเรื่องการใช้ระบบไอทีต่อยอด ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 15% ตุนงานในมือกว่า 2 พันล้านบาท อยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจ Application Service Provider (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CI (Bloomberg consensus - บาท) เผยธุรกิจโรงแรมคึกคักมองทิศทางไตรมาส 2/2566 คาดจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มองนักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสจะเข้ามามากขึ้นหลังจากนี้ราว 3-6 เดือน ปูพรมเปิดโครงการใหม่ 3 แห่ง ทำเลศักยภาพ กรุงเทพฯ,หัวหิน,ภูเก็ต มูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท ปั๊มยอดขายเติมแบ็กล็อกเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ราว 2,000 ล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 1,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) COTTO (Bloomberg consensus 2.24 บาท) มองไตรมาส 2/2566 รายได้-ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง รับอานิสงส์เปิดประเทศเต็มรูปแบบ หนุนเอกชนเดินหน้าลงทุนโครงการ เล็งปรับขึ้นราคาจำหน่ายสอดคล้องสถานการณ์ต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงวางเป้าปี 2566 ยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน เดินหน้าขยายสาขาคลังเซรามิก พร้อมเคาะแผน SCG Decor เข้าทำการควบรวมกิจการ (ที่มา ทันหุ้น)