วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 พ.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดกว่า 1% และนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน หลังตลาดกังวลเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ จากความเสี่ยงของการผิดชำระหนี้ของสหรัฐฯ เนื่องจากการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ล่าสุดได้มีการยกเลิกการประชุมในวันศุกร์ที่ผ่านมาและเลื่อนไปยังสัปดาห์หน้าแทน
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะผิดชำระหนี้ จึงส่งผลให้มีลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แทน
- เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอตัวลง หลังดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนในเดือน เม.ย. 66 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตปรับตัวลดลง โดยประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันของจีนจะฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
+ กลุ่มโอเปค (OPEC) คาดในรายงานประจำเดือน เม.ย. 66 ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้จะยังเติบโตในระดับเดิมที่ 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า นำโดยการเติบโตของจีนที่เพิ่มขึ้นกว่า 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อในภูมิภาคจากอินเดียและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจีนที่มีการประกาศโควตาการส่งออกเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน