วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (26 พ.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังรัสเซียมองว่า OPEC+ อาจไม่ปรับลดการผลิตเพิ่มเติม
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลด หลังนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ออกมาแสดงความเห็นว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบ (OPEC+) อาจไม่ปรับลดการผลิตเพิ่มเติมในการประชุมซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. หลังการประชุมครั้งก่อนหน้าในเดือน เม.ย. กลุ่ม OPEC+ มีมติปรับลดกำลังผลิตราว 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+/- การเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ ในวันพฤหัสที่ผ่านมา ระหว่างคณะผู้แทนจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน มีความคืบหน้าเพิ่มเติม แม้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นไม่ตรงกันในส่วนของงบประมาณรายจ่าย
+ บริษัท Equinor หยุดการผลิตที่แหล่งขุดเจาะน้ำมันดิบ Statfjord ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลเหนือชั่วคราว หลังเกิดเหตุการณ์แก๊สรั่วไหลในวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบได้รับผลกระทบราว 26,900 บาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าสต็อกน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ปรับลดลงมากกว่าคาด รวมถึงปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียในเดือน มี.ค. 66 ปรับเพิ่มสูงขึ้น 36.3 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของเวียดนามสำหรับการจับปลาในทะเลจีนใต้ยังคงมีอยู่ แม้จีนมีคำสั่งห้ามทำประมงในช่วงเดือน พ.ค. - ส.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของฟูไจราห์ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 พ.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 % สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 64