ตลาดกลับมาโน้มเอียงว่าเฟดน่าจะคงดอกเบี้ย
อาจยังผันผวนจากตัวเลขเศรษฐกิจ แต่มุมมองกรรมการเฟดทำให้ตลาดโน้มเอียงมองเฟดน่าจะเริ่มคงดอกเบี้ย ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดประเมินผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) กลับไป-มา ระหว่างคงดอกเบี้ยและขึ้นดอกเบี้ยต่อ 0.25%
อย่างไรก็ตาม ความเห็นล่าสุดของกรรมการเฟด 2 ท่าน ได้แก่ แพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย และฟิลิปส์ เจฟเฟอร์สัน ว่าที่รองประธานเฟด แสดงความเห็นสนับสนุนให้เฟดระงับการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13-14 มิ.ย. เพื่อให้เฟดมีเวลาพิจารณาข้อมูลทางเศรษฐกิจเพิ่ม ส่งผลให้ล่าสุด นักลงทุนมองความน่าจะเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยเหลือเพียง 20.4% ขณะที่ความน่าจะเป็นการตรึงดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นเป็น 79.6% ทั้งนี้การตรึงดอกเบี้ยถือเป็นการดำเนินนโยบายที่ลดควสามตึงตัวลง และน่าจะเป็นปัจจัยบวกกับสินทรัพย์เสี่ยง
กลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลดลงแรงจนน่าสนใจ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลดลงแรง หลังการประชุมกนง. มีการส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จากผลโหวตขึ้นดอกเบี้ยอย่างเอกฉันท์ และการพูดถึงอัตราดอกเบี้ยแท้จริงของไทยที่ปัจจุบันติดลบ ทั้งนี้การขึ้นดอกเบี้ยกระทบหุ้นไฟฟ้า ใน 2 มิติ คือ 1) Valuation เนื่องจากอัตราคิดลดที่จะเพิ่มขึ้น และ 2) ผลกระทบต่อกำไร จากต้นทุนดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนนี้ขึ้นกับสัญญาการกู้ยืมว่ามีสัดส่วนเงินกู้ยืมที่มีดอกเบี้ยคงที่มาก-น้อยเพียงใด เบื้องต้น สัดส่วนเงินกู้ยืมที่ดอกเบี้ยคงที่ของบริษัทในกลุ่มไฟฟ้ามีดังนี้ EGCO (97%), GULF (90-95%), BGRIM (90-95%), GPSC (72%), BPP (35%) อย่างไรก็ตามเมื่อมองความไวของผลกระทบต่อกำไร คนที่กระทบมากที่สุดคือ GPSC โดยทุกๆ 1% ของดอกเบี้ยที่เพิ่ม จะกระทบกำไร 4% (BPP มี D/E ที่ต่ำ ทำให้ผลกระทบต่อกำไร อยู่ในระดับที่น้อยกว่า)
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวในกรอบ 1,520-1,547 ยังเน้น speculative buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ยังชอบค้าปลีก, ท่องเที่ยว, นิคมอุตสาหกรรม ส่วนหุ้นไฟฟ้าลดลงเกินไป และน่าจะเห็นผลการดำเนินงานฟื้นจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง
หุ้นแนะนำ: BJC*, MAJOR*, AMATA*, AAV*
แนวรับ: 1,505-1,520 / แนวต้าน : 1,547 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
สหรัฐเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. – โดยเพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สวนทางที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
จีนเผย PMI ภาคการผลิต-ภาคบริการลดลงในเดือนพ.ค. – เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลง และอาจจะเป็นปัจจัยกดดันให้ทางการจีนออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างมากในกลุ่มคนหนุ่มสาว รวมทั้งยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด
ซาอุดีอาระเบียอาจปรับลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) – ให้แก่ตลาดเอเชียช่วงเดือน ก.ค. นี้ สำหรับราคาน้ำมันดิบประเภท Arab Light ประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันดิบประเภท Arab Light แพงกว่าราคาเฉลี่ยของน้ำมัน Oman/Dubai ประมาณ 1.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565
SCC ส่ง"เอสซีจี เดคคอร์" เข้าตลาดหุ้นขาย IPO – SCC อนุมัติแผย IPO ของ SCGD และการนำหุ้นสามัญของ SCGD เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในรูปแบบ Holding Company โดยกำหนดสัดส่วนจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก เป็นจำนวนไม่เกิน 26.83% ของทุนชำระแล้วของ SCGD
ประเด็นติดตาม: 1 มิ.ย. - EU Manufacturing PMI, CPI, US ADP Nonfarm Employment Change, ISM Manufacturing PMI / 2 มิ.ย. - US Average Hourly Earnings, Nonfarm Payrolls, Unemployment Rate
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)