วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ช่วงสั้นได้แรงส่งจากกระตุ้นเศรษฐกิจจีน

แต่ในมุมบวกชี้ว่าโมเมนตัมของเศรษฐกิจยุโรปโดยรวมยังอยู่ในทิศทางบวก 2) จีนมีสัญญาณของการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเริ่มเห็นการปรับลดดอกเบี้ย และมีการหารือระหว่างรัฐและเอกชนถึงแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดคาดการณ์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว น่าจะเป็นบวกกับ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ พลังงาน ปิโตรเคมี ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ดีขึ้น จะส่งผลบวกต่อการจับจ่าย และการบริโภค ซึ่งจะบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงท่องเที่ยว
 

ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวและ Window dressing ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของ SET Index ความคาดหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีน, การเตรียมซื้อน้ำมันเข้าคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ และการเข้าสู่หน้าหนาว ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ และสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งนี้หุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี จำนวนมากอยู่ในกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนนับจากต้นปีย่ำแย่ใน SET50 ทำให้หุ้นดังกล่าวมีโอกาสฟื้นจาก Window dressing เพิ่มขึ้น ซึ่งหุ้นในกลุ่มดังกล่าว (เรียงจากผลตอบแทนติดลบ YTD มากไปน้อย) ได้แก่ EA, BANPU, SCGP, CBG, TRUE, GPSC, PTTGC, TU, AWC, TOP, EGCO, GULF, PTTEP เป็นต้น
 

ภาพรวมกลยุทธ์: การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการคาดการณ์กระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้างของจีนจะส่งผลบวกต่อหุ้นโภคภัณฑ์ ซึ่งหลายตัวอยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสเป็น Window dressing target ทำให้เรายังประเมิน SET มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทดสอบ 1,560-1,580 จุด 

หุ้นแนะนำ: IVL*, CBG*, SAMTEL*, SORKON*

แนวรับ: 1,550 / แนวต้าน : 1,572-1,580 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด – ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 262,000 ราย ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 1.78 ล้านราย

 

 

เฟดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.

ECB ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด - โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกัน และ ECB ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากดีดตัวสู่ระดับ 3.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี 

AWC ซือรร.พลาซ่าแอทธินี- โดยทุ่มงบลงทุน 7,789 ล้านบาท เทกโอเวอร์พลาซ่าแอทธินี พร้อมจับมือ Nobu Hospitality ร่วมพัฒนา 2 โรงแรมในกรุงเทพฯ และนิวยอร์ก เป็นไปตามกลยุทธ์สร้างการเติบโต และสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 

Opportunity day:16 มิ.ย. – UBIS, THAI, TPS, FVC, VCOM, BTG, CEYE / 19 มิ.ย. – YONG, MENA, PRIME, PRM, CHIC, MVP / 20 มิ.ย. –  AMATAV, SC, RAM, TPAC / 21 มิ.ย. – KTBSTMR, UTP, SORKON, INET, SALEE, SCN, YGG

 

ประเด็นติดตาม: 16 มิ.ย. – US Michigan Consumer Sentiment, EU CPI / 20 มิ.ย. – US Building Permits / 22 มิ.ย. – US Existing Home Sales / 23 มิ.ย. – US PMI, EU PMI

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)