วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SCGP คุ้มค่าที่จะเสี่ยง; U/G เป็น ซื้อ
หากไม่มีปัจจัยลบผิดคาด จีนซึ่งเริ่มแสดงสัญญาณบวกน่าจะเร่งตัวขึ้นต่อ จีนนำเข้ากระดาษบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นจาก 0.4-0.5 ล้านตัน/เดือนในช่วงต้นปีนี้ เป็น ~0.8 ล้านตัน/เดือนในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้กับช่วงก่อน lockdown แล้ว
ขณะเดียวกันราคาขายในภูมิภาคน่าจะใกล้ยืนได้ในตลาดหลัก ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตของผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์หลายรายก็น่าจะค่อยๆขยับสูงขึ้น ทั้งนี้เรามองว่าพัฒนาการในด้านบวกนี้ยังต้องใช้เวลาท่ามกลางโมเมนตัมที่ยังแผ่วของจีน และ
เศรษฐกิจที่ชะลอในสหรัฐและยุโรป ทั้งนี้บางคนคาดหวังว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นมาเพิ่มอีกหลังจากที่ CPI ของจีนลดลง โดยแนวโน้ม 2Q66 SCGP มองเห็นปัจจัยบวกและลบในตลาดต่าง ๆ โดยตลาดเวียดนาม (15% ของยอดขาย) ดูสดใส รองลงมาคือตลาดไทย (40%) ในขณะที่ตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ยังเผชิญความท้าทายจากแรงกดดันของการแข่งขันและโครงสร้างต้นทุน
ประมาณการ 2Q66F – ดีกว่าที่คาดไว้เดิม (+QoQ, -YoY)
เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ เพราะต้นทุนลดลง (กระดาษรีไซเคิล, ถ่านหิน, และอัตราค่าระวางขนส่ง) และบางส่วนจากปริมาณขายสินค้าเพิ่มขึ้น ธุรกิจ Fibrous (20% ของยอดขาย) มีแนวโน้มสดใสใน 2Q66 ไม่เหมือนที่นักลงทุนคาดเอาไว้ ซึ่งธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับบริการด้านอาหาร และ dissolving pulp ที่แข็งแกร่งน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า fibrous paper ที่อ่อนแอลง เพราะความยืดหยุ่นในการผลิตของ SCGP เราคาดว่าปริมาณยอดขาย Integrated packaging (75% ของยอดขาย) จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาขายน่าจะยังไม่ไปไหน ส่วนกำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะการแข่งขันที่เข้มข้น และยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เราคาดว่า EBITDA โดยรวมจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 14.6% (จาก 14.4% ใน 1Q66 และ 2Q65) เราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุน FX 175 ล้านบาทจากเงินบาทอ่อนค่าลง ดังนั้นวันที่ 25 ก.ค. เราคาดว่ากำไรสุทธิ SCGP ใน 2Q66F จะอยู่ที่ 1.23 พันล้านบาท (-34% YoY, +1% QoQ) และกำไรหลักจะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (-26%YoY, +19% QoQ) เราคาดว่ากำไรสุทธิ 1H66 ที่ 2.6 พันล้านบาท (-30% YoY), 44% ของกำไรปี 2566F
ทำไมเราถึงปรับเพิ่มประมาณการตอนนี้ …?
Consensus ของประมาณการกำไรปี 2566 ถูกปรับลดลงมาแล้ว 25% YTD (Figure 5) ในขณะที่ราคาหุ้นตกลงมาแล้ว 36% ทั้งนี้หุ้นกระดาษบรรจุภัณฑ์ (รวมถึง SCGP) ทั่วโลกถูก derate ลงมาอย่างมากแล้วและเรามองว่าที่ระดับปัจจุบันมี downside จำกัด และการที่ SCGP เป็นผู้ให้บริการ solution ด้านบรรจุภัณฑ์รายใหญ่สุดใน ASEAN น่าจะทำให้บริษัทมีการเติบโตที่ดีและมี premium จากคู่แข่งธุรกิจเดียวกัน
Valuation and action
ถึงแม้ว่าจะประเมินแบบระมัดระวัง (10x EV/EBITDA, ใกล้เคียงหุ้นกลุ่มฯในต่างประเทศ (Figure 8)) เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ชะลอตัวลงในปี 2566F เทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม แต่ Reward/risk ยังคงน่าสนใจ – เกือบ -2 S.D. ของค่าเฉลี่ย EV/EBITDA ในอดีต ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น SCGP เป็น ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566F ที่ 42.00 บาท (จากเดิม 50.00 บาท) อิง EV/EBITDA ที่ 10x (ใกล้เคียงหุ้นในต่างประเทศ) SCGP เหมาะกับนักลงทุนที่คาดเห็นมูลค่าเพิ่มระยะยาวจาก synergies บริษัทในเครือ
Risks
ความผันผวนราคาวัตถุดิบและต้นทุนพลังงาน, การด้อยค่าของดีล M&As, และความเสี่ยงของประเทศ