วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ กลุ่มอิงปัจจัยภายนอกกลับมาเด่น

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด :  บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ กลุ่มอิงปัจจัยภายนอกกลับมาเด่น

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยรวมบ่งชี้ถึงภาวะที่เงินเฟ้อค่อยๆชะลอตัวลง (หรือ Disinflation) ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกเนื่องจากบ่งชี้ถึงความต้องการยังอยู่ในเกณฑ์ดี

แต่ราคาของสินค้าและบริการเริ่มทยอยปรับขึ้นในอัตราที่ช้าลง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต่างจากเงินฝืด (Deflation) เงินเฟ้อที่ปรับลงมักบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของความต้องการที่มักนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจ ดังนั้นปัจจัยทางเศรษฐกิจโดยรวม จึงถือว่าค่อนข้างดี และเพิ่มความน่าจะเป็นที่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีหลังจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป (หรือเกิด Soft landing) มากกว่าที่จะเป็นการชะลอตัวอย่างรุนแรง // เรายังคงมุมมองตลาดจะเปลี่ยนโฟกัสไปมองยังการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลประกอบการที่กำลังจะประกาศออกมา และมองแรงกดดันจากการดำเนินนโยบายการเงินสหรัฐฯ จะลดลงชัดเจนมากขึ้นหลังมีการยืนยันถึงการหยุดขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังการประชุมเฟด 19-20 ก.ย.66 
 

 

การเมืองในประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน การลงคะแนนรับรองนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ในช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา จบด้วยคะแนนรับรองสมาชิก 324 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสองสภาฯที่ 375 คน โดยมีผู้ไม่เห็นด้วย 182 คน และงดออกเสียง 199 คน ทำให้ต้องมีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาวาระแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี รอบใหม่อยู่ที่ 19 ก.ค. ทั้งนี้ความยืดเยื้อของการพิจารณาอาจสร้างบรรยากาศเชิงลบ จากความเสี่ยงของการใช้งบประมาณภาครัฐที่อาจล่าช้า ขณะที่ตลาดอาจผันผวนจากความกังวลการประท้วงของผู้สนับสนุนและคัดค้าน อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองความชัดเจนการเมืองไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน จะเป็นบวกกับบรรยากาศลงทุน // อย่างไรก็ตามในเชิงกลยุทธ์ อาจต้องระวังผลกระทบข้างเคียงระยะสั้น ที่ก่อให้เกิดแรงทำกำไรในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศและท่องเที่ยว ที่อาจกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ขณะที่ภาวะดังกล่าวอาจทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และอิงปัจจัยภายนอก อาจมีแรงซื้อกลับเพื่อลดความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจเกิดต่อกลุ่มอิงเศรษฐกิจภายใน 
 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,480-1,525 จุด กลุ่มอิงปัจจัยภายนอกเด่นในระยะสั้นจากความกังวลการเมืองยืดเยื้อกดดันหุ้นบริโภคและท่องเที่ยว ภาพระยะ 2 เดือน ในเชิงกลยุทธ์ ต้องกลับมาเน้นหุ้นที่โมเมนตัมกำไรเป็นบวก / Valuation ไม่แพง / ปันผลสูง (มี 1 หรือหลายข้อนี้รวมกัน) โดยภาวะ de-rating จะลดลงหลังการหยุดขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นโอกาสในการทยอยสะสม

หุ้นแนะนำ: PTTEP*, IVL*, ESSO*, CBG*

แนวรับ: 1,489 / แนวต้าน : 1,500-1,525 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

สหรัฐเผยดัชนี PPI ต่ำกว่าคาดการณ์ - โดยดัชนี PPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% yoy ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% จากระดับ 0.9% ในเดือนพ.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 2.4% yoy ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ค.

IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกครั้งแรกในปีนี้ – เป็นผลมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ทั้งนี้ อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 (ปรับลดลง 220,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนที่แล้ว) แตะระดับเฉลี่ย 102.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจีนคิดเป็นสัดส่วน 70% ของการเติบโตของอุปสงค์ทั่วโลกในปีนี้ 

ผู้สอบ STARK พลาดอื้อ เปิดพอร์ตพบเซ็น BLA –  นอกจาก STARK พบเซ็นบริษัทลูก STARK ที่โดนกล่าวโทษเพียบ ทั้ง เฟ้ลปส์ ดอด์จ อดิสรสงขลา และเคยเซ็นรับรองงบให้ทีม เอ โฮลดิ้ง 2 ของวนรัตน์ พบตลอดการทำงาน เซ็นบริษัทมหาชน 22 แห่ง เฉพาะปี 2565 รับรองงบให้บจ. BLA และ ITTHI ด้านบิ๊ก ITTHI รับเปลี่ยนผู้สอบแล้วเพื่อความเชื่อมั่น

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง 'ไทย โคโคนัท (COCOCO)' –  เสนอขายไอพีโอ 370 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนใน SET ภายในปีนี้ เพื่อระดมทุนขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าว รุกธุรกิจอาหารที่ทำจากพืช มองโอกาสเติบโตสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง หวังสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

 

ประเด็นติดตาม: 16 ก.ค. - CH GDP / 18 ก.ค. -  US Retail Sales / 19 ก.ค. - EU CPI, US Building Permits, Housing Starts / 20 ก.ค. - US Initial Jobless Claims, Exisiting Home Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)