วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (17 ก.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับปรับลด จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าและนักลงทุนเทขายทำกำไร
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลด จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ปรับเพิ่มขึ้น 0.14% แตะระดับ 99.91 ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายเพื่อทำกำไร หลังจากราคาปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันก่อนหน้านี้
+ อย่างไรก็ตามตลาดยังคงกังวลกับอุปทานน้ำมันตึงตัว หลังบ่อน้ำมันหลายแห่งในลิเบียถูกปิดเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากการประท้วงเพื่อต่อต้านการลักพาตัวอดีตรัฐมนตรี นอกจากนี้เชลล์ยังระงับการโหลดน้ำมันดิบ Forcados ของไนจีเรีย เนื่องจากอาจเกิดการรั่วไหลที่คลังน้ำมัน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะทำให้อุปทานน้ำมันจากลิเบียหายไปราว 370,000 บาร์เรลต่อวัน และจากไนจีเรีย 225,000 บาร์เรลต่อวัน
+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ก.ค. ปรับลดลงจำนวน 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 537 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ เม.ย. 65 และแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 133 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นของจีน ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ซึ่งจะส่งผลให้จีนส่งออกน้ำมันเบนซินลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 2.32% แตะระดับ 7.87 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ราคายังถูกกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้นจากจีน