วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ก.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง ภายหลังตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาสที่ 2 เติบโตเพียง 6.3% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่จะขยายตัว 7.3% ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ซบเซาทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจากการที่ลิเบียได้กลับมาเริ่มผลิตน้ำมันบางส่วนอีกครั้งภายหลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปัญหาการประท้วงภายในประเทศ
- อัตราการว่างงานในจีนของประชากรอายุระหว่าง 16-24 ปี ยังคงพุ่งสู่ระดับ 21.3% ในเดือน มิ.ย. 66 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานในหลายเมืองในช่วงเดือนเดียวกันอยู่ที่ 5.2%
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานข้อมูลว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินของสหรัฐฯ (U.S. shale oil) จะปรับลดลงราว 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค. 66 ซึ่งจะถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากตัวเลขส่งออกน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้น 15.4% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 6.0 แสนตัน อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกกดดันจากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจในจีนที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ สะท้อนการฟื้นตัวอย่างชะลอตัวในด้านอุปสงค์
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต๊อกน้ำมันดีเซลในศูนย์กลางซื้อขาย Amsterdam-Rotterdam-Antwerp (ARA Hub) ปรับลดลง 1.5% มาอยู่ที่ระดับ 1.9 ล้านตัน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์การส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนในเดือน ก.ค. 66 จะอยู่ที่ระดับ 1.2-1.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาราว 0.8-0.9 ล้านตัน