วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก"พิธา" หมดสิทธิชิงนายกรัฐมนตรี

โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก แรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากปรับตัวขึ้นในวันก่อนหน้า ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,536.64 จุด +1.34 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 51,752 ลบ.ต่างชาติ +3.48 ลบ. TFEX +8,717 สัญญา ตราสารหนี้ +15,391.81 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 109.28 จุด หรือ +0.31% ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งคาดการณ์ที่ว่าเฟดใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+/- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 0.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
+ UN เปิดเผย ว่า โรคเอดส์อาจสิ้นสุดลงได้ภายในปี 2573 หากประเทศต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงเจตจำนงทางการเมืองเพื่อลงทุนในการป้องกันและรักษาโรค และปรับใช้กฎหมายที่ไม่เลือกปฏิบัติ
+ ธปท.เตรียมออกมาตรการแก้ไขหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน แก้ปัญหาหนี้เรื้อรังที่กู้หนี้หมุนเวียนมาโปะหนี้เก่า ปิดจบหนี้ไม่ได้ จ่ายดอกเบี้ยสะสมมากกว่าเงินต้น มีรายได้น้อย โดยจะมีเกณฑ์ให้เหมาะสมกับระดับรายได้

 

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 75.35 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในระหว่างวัน
- กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์เตือนว่า เรือทุกลำที่เดินทางไปยังท่าเรือของยูเครนในทะเลดำจะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีการบรรทุกอาวุธยุทโธปกรณ์ หลังจากที่ยูเครนประกาศกำหนดเส้นทางเดินเรือชั่วคราวในทะเลดำเพื่อผลักดันการส่งออกธัญพืช
- สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 8% สู่ระดับ 1.44 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.48 ล้านยูนิต จากระดับ 1.56 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค.
 

- การเมืองในประเทศยังไม่มีเสถียรภาพรัฐสภาลงมติไม่ให้โหวต "พิธา" เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง เหตุผิดข้อบังคับ 41 ห้ามเสนอญัตติซ้ำ ซึ่งญัตติเสนอนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีตกไปตั้งแต่ 13 ก.ค.จึงเสนออีกไม่ได้ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ชั่วคราว
- ผู้ว่าธปท.มองเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 3-4% มองการเมืองไม่แน่นอนเป็นปัจจัยเสี่ยง ด้าน ม.หอการค้าไทยคาดเดือน ส.ค.นี้ยังไม่ได้รัฐบาล ส่งออกไทยปีนี้ติดลบหนักถึง 3.1% เพราะไม่มีรัฐบาลขับเคลื่อนโดยตรง ถ้าตั้งรัฐบาลได้ในเดือน ส.ค.นี้ ประเมินว่าการส่งออกจะติดลบน้อยลง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยการเมืองในประเทศยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ซึ่งล่าสุดจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี อีกครั้งวันที่ 27 ก.ค. หลังจากรัฐสภาลงมติไม่ให้โหวตคุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,530-1,540 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• สินค้าส่งออกเดือน พ.ค. ที่ยังขยายตัวได้ดี : SNC AH SAT HANA KCE PDJ
• ค่าระวางเรือขึ้นจากคลองปานามา หุ้นได้ประโยชน์ PSL TTA RCL
• 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB
• หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO

หุ้นรายงานพิเศษ  

MENA (Bloomberg Consensus 2.76 บาท)
ผลประกอบการปี 66 ได้แรงหนุนจากบริษัทร่วม TDM

•คาดผลประกอบการ 2Q66 ทรงตัว QoQ เนื่องจากติดวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ ประกอบกับมีวันหยุดเลือกตั้งในช่วงเดือนพ.ค. โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโตไม่น้อยกว่า 15%YoY จากการฟื้นตัวของภาคก่อสร้างและเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ความต้องการอุปโภคและบริโภคขยายตัวสูงขึ้น ในส่วนของต้นทุนเชื้อเพลิงบริษัทมองว่า ปัจจุบันมีการปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนค่าแรง ค่าเสื่อมราคา ยังคงควบคุมได้ดี ในส่วนของ TDM ได้เริ่มให้บริการขนส่งสินค้าและกระจายสินค้าไปยังร้านค้าในเครือ CJ ทั่วประเทศ และมีแผนขยายการให้บริการขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มร้านค้าในเครือ ถูกดี เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทคาดว่า TDM จะสร้างรายได้ปี 66 ได้ราว 400-500 ล้านบาท (รับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไร)

•ความเห็น : เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท โดยคาดว่าผลประกอบการช่วง 2H66 จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร TDM เข้ามาเต็มไตรมาสตั้งแต่ 3Q66 ประกอบกับ 4Q66 นับเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ที่ 73.6 ล้านบาท +44%YoY เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) NRF (Bloomberg consensus 4.30 บาท) ควัก 51.6 ล้านบาท เข้าถือหุ้นใน Kairous Asia 49% วางเกมธุรกิจร่วมลงทุนหวังผลักดันบริษัทลูกในกลุ่มเข้าไอพีโอในตลาดแนสแด็ก แย้มปีนี้มีอย่างน้อย 1 ดีล ชี้ช่วยปลดล็อกเข้าตลาดหุ้น เพิ่มมูลค่าและสภาพคล่อง ปักธงรายได้ปีนี้ 3.5-3.8 พันล้านบาท ซุ่มดีลพันธมิตรต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCP (Bloomberg consensus 41.00 บาท) เผยสำนักงาน กขค. ไฟเขียวให้รวมธุรกิจกับ ESSO โบรกมองบวก คาดกระบวนการเข้าซื้อจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในครึ่งปีหลัง 2566 นี้ คาดรับรู้รายได้ไตรมาส 4/2566 พร้อมมองผลงานไตรมาส 2/2566 ธุรกิจโรงกลั่น คาดอัตราการใช้กำลังการกลั่นอยู่ที่ 110,000-120,000 บาร์เรลต่อวัน ธุรกิจการตลาด คาดปริมาณขายน้ำมันปิโตรเลียมเติบโตต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจไฟฟ้า มีแนวโน้มดีขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASAP (Bloomberg consensus - บาท) เตรียมรับทรัพย์หลังผลโหวตจุดหมายท่องเที่ยวทั่วโลกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติของแพลตฟอร์มดัง "อโกด้า" พบไทยติดโผอันดับที่ 2 หนุนดีมานด์ รถเช่าทะลัก แถมครึ่งหลังปี 2566 ฟอร์มสวย ผู้บริหาร "ทรงวิทย์ ฐิติปุญญา" ปักหมุดปี 2566 ปั้นรายได้ 3.8 พันล้านบาท อัดงบ 2 พันล้านบาท เสริมทัพรถเช่าเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CHAYO (Bloomberg consensus 10.45 บาท) เผยมูลหนี้ในระบบปี 2566 พุ่ง 2.5 แสนล้านบาท จากเดิมคาด 1.5-1.6 แสนล้านบาท กำเงินทุน 1.6 พันล้านบาท รอเก็บมูลหนี้ใหม่เติมพอร์ต หลังจากครึ่งแรกปีคว้ามาได้แล้วกว่า 5.3 พันล้านบาท หนุนพอร์ตมูลหนี้แตะ 8.6 หมื่นล้านบาท ฟุ้ง NPA เนื้อหอมลูกค้าจ่อซื้อที่ดินผืนใหญ่ มูลค่าหลักร้อยล้าน และมั่นใจผลงานทั้งปีเติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 25% (ที่มา ทันหุ้น)