วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงบ่าย หลังจากที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยใช้ข้อ 41 ขวางโหวต "พิธา" พร้อมขอให้สั่งยุติเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน ทำให้การโหวตนายกรัฐมนตรีจากเดิมวันที่ 27 ก.ค. นี้ อาจมีการเลื่อนออกไปก่อน
โดยมีแรงซื้อในหุ้น DELTA ส่วนแรงขายมาจากหุ้นธนาคาร เช่น KBANK KKP SCB จากผลการดำเนินงานที่ยังอ่อนแอ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,523.81 จุด -5.44 จุด -0.36% มูลค่าการซื้อขาย 50,653 ลบ.ต่างชาติ -4,344.49 ลบ. TFEX -1,414 สัญญา ตราสารหนี้ -3,136.74 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 183.55 จุด หรือ +0.52% ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 11 ปิกบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI) ปิดเพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ +2.1% ปิดที่ 78.74 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ได้แรงหนุนจากภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวในตลาดโลก รวมทั้งความหวังที่ว่าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ
ปัจจัยลบ
- FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100%คาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค.นี้
- สหรัฐรายงานดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นในเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 52 ต่ำสุดในรอบ 5 เดือนจากระดับ 53.2 ในเดือนมิ.ย. จากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้
- นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 27 ก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และจับตาว่า ECB จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ดัชนี PMI ต่ำกว่า 50 ที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตหดตัว
- ราคาข้าวสาลี ข้าวโพดและถั่วเหลืองในตลาดโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ขานรับการที่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้น
- การเมืองไทยยังขาดเสถียรภาพจากปมปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังยืดเยื้อ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ผันผวนเนื่องจากนักลงทุนเล่นเก็งกำไรสั้นก่อนทราบผลการเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค. นี้ และนักลงทุนคาดว่าเฟดและ ECB จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 0.25% และ 0.25% สู่ 5.50% และ 4.25% ตามลำดับเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนดัชนี มองกรอบดัชนี 1,515-1,530 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ค่าระวางเรือขึ้นจากคลองปานามา หุ้นได้ประโยชน์ PSL TTA RCL
• 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB
• หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY
• หุ้นที่ได้ประโยชน์อินเดียระงับส่งออกข้าว PRG UVAN CPI VPO
หุ้นรายงานพิเศษ
HL "คาด 2Q66 ผลประกอบการเติบโต QoQ"
•คาดผลประกอบการ 2Q66 อยู่ที่ 22-26 ลบ. เติบโต 5%YoY และเติบโต 88%QoQ โดยคาดว่ารายได้จะทรงตัว QoQ ที่ 380-390 ลบ. เนื่องจากรายได้จากการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะ ATK ลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยการเปิดสาขาใหม่ใน 2Q66 อีก 2 สาขาสู่ 41 สาขา ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 21.5% ใน 1Q66 สู่ 23.4-23.7% จากการปรับขึ้นราคาจำหน่ายยาหน้าร้าน
•ผู้บริหาร ตั้งเป้าขยายสาขาใน 2H66 อีก 9 สาขา โดยคาดว่าจะเปิดสาขา 5 สาขาและ 4 สาขาใน 3Q66 และ 4Q66 ตามลำดับ ส่งผลให้ปลายปี 66 จะมีสาขาทั้งสิ้น 50 สาขา นอกจากนี้ 3Q66 เริ่มมีการจัดระเบียนสินค้าในร้านเพื่อให้สร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น และ4Q66 มีการออกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายใต้แบรนด์ “BESUTO”
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกระยะยาวต่อธุรกิจ ร้านขายยา เนื่องจากความเสี่ยงจาก Telephramacy ยังจำกัด เพราะทางสภาเภสัช และองค์การอาหารและยาสามารถให้ทำได้แต่ต้องติดต่อกับเภสัชประจำร้านเท่านั้น อีกทั้งผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวจากการปรับขึ้นราคาขายยา เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) ACE (Bloomberg consensus 3.76 บาท) ลุยตลาด "Private PPA" มองโอกาสเติบโตสูง เผยเซ็นสัญญาลูกค้าต่อเนื่อง เตรียมเซ็น PPA โครงการพลังงานทดแทน 18 โครงการในเดือนตุลาคมนี้ เติมกำลังการผลิตรวม 112.73 เมกะวัตต์ มองประเทศไทยความต้องการใช้พลังงานทดแทนสูง การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหนุน เดินหน้าขาย REC พร้อมต่อยอดคาร์บอนเครดิตในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SUN (Bloomberg consensus 8.20 บาท) เผยการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรก 2566 มีสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรอื่นๆ เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมรับความท้าทายใหม่ๆ ส่วนครึ่งปีหลังยังเดินหน้ารุกขยายธุรกิจเต็มพิกัด ทั้งเน้นความร่วมมือกับคู่ค้า ลูกค้า และพันธมิตรธุรกิจ ในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ต่อยอดอนาคตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PRM (Bloomberg consensus 9.63 บาท) บิ๊กบอส "วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์" ส่งซิกครึ่งปีหลัง 2566 กองเรือปั้นผลงานฟื้นแรง จากปริมาณการขนส่งปิโตรเลียมในประเทศและต่างประเทศความต้องการสูง และมีปัจจัยบวกเพิ่มจากเรือ FSU เข้าประจำการไตรมาส 3/2566 หลังเข้าซ่อมแล้วเสร็จ หนุนผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง อีกทั้งมองปัจจัยการเมืองในประเทศไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ คงเป้ารายได้ปีนี้ 2566 เติบโต 10% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ALLA (Bloomberg consensus - บาท) มองครึ่งหลังปี 2566 โดดเด่น เร่งเครื่องประมูลชิงงานติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้าใหม่เติมพอร์ต กว่า 4-5 โปรเจ็กต์ คาดไตรมาส 3/2566 ได้เห็นอย่างน้อย 1-2 โครงการ ตุนแบ็กล็อกหนา 550 ล้านบาท คาดรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปี 2566 นี้ มั่นใจผลงานทั้งปีนี้ดีกว่าปีก่อน พร้อมกางแผนลุยธุรกิจพลังงานสะอาด โซลาร์รูฟท็อปเนื้อหอม (ที่มา ทันหุ้น)