วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (3 ส.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากการปรับลดอันดับเครดิตของรัฐบาลสหรัฐฯ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลัง Fitch rating ปรับลดอันดับเครดิตของรัฐบาลสหรัฐฯ ลงจากระดับ AAA สู่ระดับ AA+ จากความกังวลต่อหนี้สาธาณะของรัฐบาลซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูง แม้การเจรจาเพื่อเพิ่มเพดานหนี้จะบรรลุข้อตกลงในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นกว่าร้อยละ 0.57 ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับผู้นำเข้าที่ถือสกุลเงินอื่น
+/- ตลาดคาดกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) จะไม่ปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติม ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 4 ส.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซาอุดิอาระเบียอาจมีการปรับลดกำลังการผลิตที่ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มเติมในเดือน ก.ย.
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.ค. 66 ปรับตัวลดลง 17 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 439.8 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดคาดจีนเตรียมออกโควต้าการส่งออกรอบใหม่
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ภายหลังโรงกลั่นบางแห่งในเอเชียและยุโรปหยุดการดำเนินการชั่วคราว ขณะที่ตลาดคาดการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนในเดือน ส.ค. อยู่ที่ระดับ 0.6 ล้านตัน ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 1 ล้านตัน ท่ามกลางความกังวลต่อการออกโควต้าการส่งออกรอบใหม่