วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (8 ส.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดกังวลอุปสงค์ชะลอตัว
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนเทขายทำกำไร ภายหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลงหลังสิ้นสุดฤดูกาลขับขี่
- นางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเฟดควรเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับเป้าหมายที่ 2% โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 5.25-5.50%
+/- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเปิดเผยในวันที่ 10 ส.ค. โดยตลาดคาดอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 3.3% ปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 3.0% นอกจากนี้ตลาดยังคงจับตาตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน อันได้แก่ ตัวเลขการนำเข้าและส่งออกเดือน ก.ค. และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค. ซึ่งจะเปิดเผยในวันที่ 8-9 ส.ค. นี้
- ตลาดผ่อนคลายความกังวลต่อเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบ Druzhba ซึ่งขนส่งน้ำมันดิบจากรัสเซียสู่ยุโรปรั่วไหล หลังบริษัท PERN กล่าวว่าท่อขนส่งน้ำมันจะสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติในวันที่ 8 ส.ค.
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียยังคงอยู่ในระดับสูงที่ราว 10 –11 ล้านบาร์เรล ในเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อโควต้าการส่งออกรอบใหม่ของจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของยุโรป ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ส.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% ขณะที่การส่งออกไปยังฝั่งตะวันตกมีแนวโน้มอ่อนตัวลง