วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นเด้ง
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงเล็กน้อยราว -4 จุด แรงขายจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก ไอซีที โดยนักลงทุนจับตา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ รวมถึงอัตราการว่างงาน เพื่อดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับการติดตามรายชื่อครม. อย่างเป็นทางการ
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,561.51 จุด -4.43 จุด -0.28% มูลค่าการซื้อขาย 48,764 ลบ.ต่างชาติ -1,037.95 ลบ. TFEX +2,726 สัญญา ตราสารหนี้ -1,170.44 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 115.80 จุด +0.33% หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราว่างงานได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า FED อาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.43%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งขึ้น 1.92 ดอลลาร์ +2.3% ปิดที่ 85.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ปรับตัวขึ้น 7.2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของจีนได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันด้วย
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% ขณะที่การขยายตัวของค่าจ้างชะลอตัวลง
+ FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 93% ที่ FED จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้
+ คันทรี การ์เดน ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาของจีนได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ให้ยืดเวลาการชำระหนี้หุ้นกู้ในประเทศวงเงิน 3.9 พันล้านหยวน (540 ล้านดอลลาร์)
+ นับหนึ่งการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่เศรษฐา1 หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา กำหนดประชุมครม.นัดพิเศษ 6 ก.ย.
ปัจจัยลบ
- ทางการจีนประกาศเตือนภัยซูเปอร์ไต้ฝุ่น "เซาลา" (Saola) ด้วยรหัส "สีแดง" ซึ่งเป็นการเตือนภัยขั้นสูงสุด ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ภาคใต้ของจีน
- สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธร่อน ระยะไกลจำนวน 2 ลูก ระหว่างการฝึกซ้อมโจมตีด้วยนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี เพื่อตอบโต้การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้เมื่อเร็ว ๆ นี้
- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-1 กันยายน 2566 แยกเป็นสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 55,502.13 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 583.92 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 136,235.58 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 81,317.37 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากอัตราว่างงานสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,555-1,570 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY XPG
• หุ้น mai ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว : SPA AU D RP
• iPhone 15 เปิดตัว 12 ก.ย. : COM7 SPVI CPW SYNEX
• ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น : KBS KSL KTIS BRR
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD
หุ้นรายงานพิเศษ
PRM - ซื้อ Bloomberg Consensus 8.85 บาท
"มุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2H66 คาดจะโต HoH"
•งวด 2Q66 มีกำไร 471 ลบ. +137%YoY -18%QoQ โดยมีรายได้ 2,097 ลบ. +23%YoY ทรงตัว QoQ เติบโต YoY เนื่องจาก 1) ธุรกิจขนส่งน้ำมันในประเทศ (สัดส่วน 40%) ขยายกองเรือเพิ่ม 2 ลำในช่วง 3Q65 และ 2Q66 และ 2) ธุรกิจขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ (สัดส่วน 23%) รับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากเรือ VLCCs 3 ลำ ตั้งแต่เดือน ก.ย.65 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเรือจัดเก็บน้ำมัน (FSU) (สัดส่วน 28%) หดตัว QoQ เนื่องจากมีเรือ 1 ลำ อยู่ในระหว่างการเข้าอู่แห้งทั้งไตรมาสและเตรียมถูกขาย ส่วน %GPM ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 38.6% (2Q65 = 27.2%, 1Q66 = 38.3%) จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับเรือ FSU ที่รอการขาย ถูกปรับรายการค่าเสื่อมจากเดิมบันทึกใน COGS ไปยัง SG&A สะท้อน %SG&A/Sales ที่เร่งขึ้นสู่ 12.5% (2Q65 = 11.3%, 1Q66 = 10.0%)
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2H66 คาดจะโต HoH จาก 1) ธุรกิจขนส่งน้ำมันเติบโตดีตามภาคการท่องเที่ยว และรับรู้รายได้จากเรือที่รับใหม่ตั้งแต่ 2Q66 ประกอบกับช่วง 4Q66 จะรับเรือลำใหม่เพิ่มอีก 1 ลำ 2) ธุรกิจเรือ Offshore Support รับรู้รายได้จากเรือ AWB ที่เพิ่งเข้าทำสัญญาใหม่ที่มีอัตราค่าบริการสูงขึ้นหลังจากหยุดให้บริการช่วงเดือนมี.ค. 66 และเริ่มเข้าให้บริการตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และ 3) อาจมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายเรือ FSU 1 ลำ ในช่วง 3Q66 โดยปัจจุบันมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง IBD/E ราว 0.3x และเงินสดในมือราว 3.4 พันลบ. จึงมีโอกาสขยายการลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะในกลุ่มเรือขนส่งเคมีภัณฑ์ระหว่างประเทศทั้งการซื้อเรือมือสองและต่อเรือใหม่ซึ่งจะเป็นอัพไซต์ในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 2,003 ลบ. -10%YoY *มีโอกาสถูกปรับประมาณการขึ้น (1H66 มีกำไร 1,049 ลบ. +122%YoY และคิดเป็น 52% ของประมาณการทั้งปี 66) และราคาเหมาะสม 8.85 บาท Upside 38%
หุ้นมีข่าว
(+) BA (Bloomberg consensus 20.28 บาท) มั่นใจผลงานไตรมาส 3 โต รับไฮซีซั่นของชาวยุโรป โชว์สมุยเป็นจุดหมายยอดนิยม ส่วนไตรมาส 4 เริ่มมียอดจองล่วงหน้าแล้ว คงเป้าปีนี้รายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท ผู้โดยสาร 4.4 ล้านคน ย้ำแผนล้างขาดทุนสะสม 1.3 หมื่นล้านบาท ชงผู้ถือหุ้น 28 ก.ย.นี้ เตรียมพร้อมหากผลประกอบการดีจ่ายปันผลทันที (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) SUPER (Bloomberg consensus - บาท) แย้มเจรจากับพันธมิตรในอินโดนีเซีย-มาเลเซีย ที่จะขายไฟให้สิงคโปร์ ตามโครงการ ASEAN Power Grid ด้วยเทคโนโลยี Solar Hybrid ปลายปีจ่อ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม 30 MW หนุนกำลังผลิตปีนี้ 1,652.32 MW (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) BIZ (Bloomberg consensus - บาท) ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังโต หลังตุนแบ็กล็อกรอบุ๊ก 920 ล้านบาท ทยอยส่งมอบเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง พร้อมโชว์ธุรกิจ รพ.มะเร็งดีขึ้นต่อเนื่อง เน้นรุกผู้ป่วยเคมีบำบัด หวังทำกำไรทุกไตรมาส หลังรายได้พุ่ง 25 ล้านต่อ ไตรมาส มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% (ที่มา ข่าวหุ้น)
(0) JKN (Bloomberg consensus - บาท) “แอน-จักรพงษ์” ซีอีโอ JKN เผยหนี้หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระ 443.40 ล้านบาท กำหนดวันชำระใหม่แล้ว แต่ต้องรอที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้อนุมัติ 29 ก.ย.นี้ ฟุ้งเตรียมแผน A B และ C รองรับไว้แล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ เล็งหาเงินกู้ระยะยาวมาแทนเงินกู้ระยะสั้น หวังแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องชำระหุ้นกู้ ลั่นจะไม่มีการลงทุนธุรกิจใดเพิ่มแล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น)