วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BTS - คดีความกินเวลานาน ผลกระทบที่แท้จริงน่าจะน้อย
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้เท่าเดิมที่ 8.50 บาท ในขณะที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการส่งฟ้องอดีตผู้ว่ากทม. กรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเกี่ยวกับสัญญา O&M ทั้งในส่วนของเส้นทางหลัก และส่วนต่อขยาย
แต่เรามองว่าผลกระทบต่อกำไรและกระแสเงินสดของ BTS น่าจะจำกัดในระยะสั้น เพราะการพิจารณาคดีของศาลใช้เวลานานกว่าจะมีการตัดสิน นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องของการกระทำผิดส่วนบุคคลไม่ใช่องค์กร ดังนั้น ผลกระทบที่แท้จริงจึงอาจจะไม่มากเหมือนที่ปรากฎในรายงานข่าว
BTS ยังมั่นใจว่าการดำเนินการเกี่ยวกับสัญญา O&M เป็นไปโดยสุจริต
หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีการดำเนินการโดยมิชอบของสัญญาสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (Operation and Maintenance Services Contracts หรือ O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายในปี 2012 บริษัทได้ออกมาชี้แจงในประเด็นนี้โดยในประเการแรก บริษัทระบุว่าได้ส่งทำหนังสือไปถึง ปปช. หลายครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก ปปช. ว่าบริษัท และผู้บริหารของบริษัทมีส่วนสนับสนุนการดำเนินการมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างไร แต่ ปปช. ไม่ได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมตามที่บริษัทร้องขอ ทั้งนี้ บริษัทยังมองในแง่ดีว่าหาก ปปช. ได้รับข้อมูลจากทางบริษัท ปปช.จะทราบว่า BTS และผู้บริหารไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาดังกล่าว ประการที่สอง ข้อกล่าวหาของ ปปช. เกี่ยวกับการประพฤติมิชอบน่าจะเป็นกระบวนการพิจารณาความผิดทางทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้น จึงไม่กระทบกับสัญญาสัมปทาน และสัญญา O&M ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย
ผลกระทบที่แท้จริงอาจจะไม่รุนแรงเหมือนกับที่ปรากฎในรายงานข่าว
เรายังคงใช้สมมติฐานว่าสัญญาของ BTS โดยเฉพาะสัญญา O&M ยังคงมีผลผูกพันไปจนถึงปี 2042 (สิ้นสุดสัญญา O&M) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราทราบว่าไม่สามารถคาดเดาผลการวินิจฉัยของศาลได้อย่างแม่นยำ เราจึงทำการวิเคราะห์ scenario ต่าง ๆ ว่าเมื่อนำปัจจัยนี้เข้ามาพิจารณาแล้วมูลค่าของบริษัทจะเป็นอย่างไร โดยในกรณีเลวร้ายที่สุด (เรามองว่าไม่น่าเกิดขึ้น) การปฏิบัติโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้บริหาร BTS ทำให้สัญญา O&M เป็นโมฆะ ราคาเป้าหมายที่คำนวณโดยวิธี SoTP ของเราจะลดลง 3.62 บาท เหลือ 4.88 บาท (จากเดิม 8.50 บาท) ส่วนกรณีที่มีความเป็นไปได้มากกว่า
คือแม้ว่าสัญญาจะไม่เป็นไปตามกฎหมาย แต่ กทม. ไม่สามารถเดินรถสายสีเขียวเองได้จึงต้องจ้าง BTS ให้เดินรถสายสีเขียวต่อไปอยู่ดี ซึ่งในกรณีนี้ กทม. อาจจะต่อรองส่วนลดจากสัญญาเดิม เราได้ทำการวิเคราะห์ sensitivity และพบว่าส่วนลดทุก ๆ 10% จากสัญญาเดิมจะทำให้ราคาเป้าหมายของเราลดลงเฉลี่ย 4% คงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 8.50 บาท
เรายังคงคำแนะนำซื้อ BTS และคงราคาเป้าหมาย SoTP เอาไว้ที่ 8.50 บาท เรามองว่า
BTS จะได้รับผลกระทบต่อกำไรและกระแสเงินสดจำกัดในระยะสั้นถึงกลางจากคดีความข้างต้น (หากมีการยื่นฟ้องจริง) ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 ปีกว่าที่ศาลอาญาจะมีคำพิพากษาออกมา