วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BDMS - กำไรธุรกิจหลักจะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q23F

นอกจากนี้กำไรใน 4Q คาดว่าจะดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลสูงสุดของผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งมารักษาโรคซ้อน (อัตรากำไรขั้นต้นสูง) ดังนั้น การลดลงของราคาหุ้น 8% ตั้งแต่ต้นปีจึงไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเราคงคำแนะนำ ซื้อ

 

คาดกำไรธุรกิจหลักจะเติบโต 19% qoq เป็น 3.7 พันลบ.ใน 3Q23F

ปัจจัยสนับสนุนได้แก่ (i) รายได้เติบโต 8% qoq เป็น 2.5 หมื่นลบ. สนับสนุนจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก, RSV และโรคมือเท้าปาก BDMS แนะแนวโน้มรายได้ yoy เพิ่มขึ้น 8% ในเดือนกรกฎาคมและมากกว่า 10% ในเดือนสิงหาคม บริษัทมีผู้ป่วยเด็กจำนวนมากในต่างจังหวัด (พัทยาและระยอง) และกรุงเทพฯ ประกอบกับมีเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใหญ่ จึงสามารถส่งลูกค้าไปยังโรงพยาบาลภายในกลุ่มได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยต่างชาติเดินทางมามากขึ้นจากตะวันออกกลางหลังจากเดือนรอมฎอน โดยเฉพาะจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (มีสัดส่วนรายได้ #1 ในช่วงก่อนโควิดระบาดและใน 1Q23) และกาตาร์ (จากอันดับ 4 ขึ้นเป็นอันดับ 2); (ii) คาดอัตราการครองเตียงมากกว่า 70% ซึ่งจะเพิ่มกำไรจากการประหยัดของขนาด เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 0.6% qoq เป็น 36.5% แต่ลดลง 0.3% yoy เนื่องจากการปรับขึ้นค่าแรงใน
3Q22 บริษัทจะประกาศผลการดำเนินงานวันที่ 13 พฤศจิกายน

 

คาดกำไรธุรกิจหลักจะทำสถิติสูงสุดอีกครั้งใน 4Q23

เราคาดกำไรธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น 7% yoy เป็น 1.0 หมื่นลบ. ใน 9M23 หรือคิดเป็น 71% ของประมาณการของเราใน FY23F ซึ่งหมายความว่ากำไรธุรกิจหลักจะเท่ากับ 4.2 พันลบ.ใน 4Q23สนับสนุนรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่จะสูงสุดตามฤดูกาล เรายังคาดจำนวนลูกค้าจีนจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย BDMS มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้า CLMV สูงกว่าระดับก่อนโควิดระบาดที่ 6.2% ของรายได้โรงพยาบาลใน 1H23 เทียบกับ 4.0% ในปี 2019 และรายได้จากลูกค้าจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1.9% จาก 1.6% ส่วนรายได้จากลูกค้าตะวันออกกลางยังน้อยกว่าก่อนโควิดระบาดที่ 3.4% ของรายได้โรงพยาบาลใน 1H23 เทียบกับ 5.2% ในปี 2019

 

การระบาดของโรคประจำฤดูเพิ่มขึ้น

จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก และโรคมือเท้าปากในประเทศไทยเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจาก 50,123 รายใน 2Q23 เป็น 183,419 รายในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม - 11 กันยายน ซึ่งเป็นผู้ป่วยเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปีสูงถึง 84% อัตราการครองเตียงสูงทุกโรงพยาบาล เนื่องจากผู้ป่วยเด็กเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ สมมติ 50% ของผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนและใช้เวลารักษาเฉลี่ย 3 วัน คาดจะทำให้รายได้รวมของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 2.6 พันลบ.หรือคิดเป็น 5% ของรายได้โรงพยาบาลที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใน 2Q23