วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SAPPE ขยายตลาดส่งออกใหม่

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SAPPE ใน 3Q66F จะยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 314 ล้านบาท (+2% QoQ และ +78%YoY) เนื่องจากการส่งออกไปยุโรปยังแข็งแกร่ง และ อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ในขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิในงวด 9M66 จะอยู่ที่ 904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81% และคิดเป็น 84% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

 

Margin เพิ่มขึ้นเพราะต้นทุน PET Resin ลดลง 5% QoQ

เราใช้สมมติฐานว่ายอดขายใน 3Q66F จะโต 5% QoQ และ 36% YoY โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นอีกจาก CAPU ที่สูงขึ้น และ ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่ลดลงในส่วนของ PET Resin ซึ่งลดลงประมาณ5% QoQ ดังนั้น เราจึงใช้สมมติฐานว่า GPM จะเพิ่มขึ้น 100bps QoQ และ 460bps YoY อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทตั้งใจจะเพิ่มการเติบโตของการส่งออกไปยังตลาดเอเชีย เราจึงคาดว่าบริษัทจะอัดงบโฆษณาใน 3Q66F-4Q66F

 

 

ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 6% เพื่อสะท้อนราคาน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประมาณ 27cent/lb ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งสูงกว่าประมาณการก่อนหน้านี้ของเราที่ 23-24cent/lb ในฐานะที่ SAPPE เป็นหุ้นส่งออก การที่ราคาน้ำตาลสูงขึ้นมากจะส่งผลกระทบกับต้นทุนน้ำตาลในการดำเนินงานปีหน้า โดยต้นทุนน้ำตาลคิดเป็นประมาณ 12% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ดังนั้น ราคาน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นจาก 23-24cent/lb จะทำให้ต้นทุนน้ำตาลเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมของเราประมาณ 13-17% ซึ่งจากการวิเคราะห์ sensitivity พบว่าต้นทุนน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 10% จะทำให้กำไรลดลงประมาณ 5% ซึ่ง ณ ระดับปัจจุบัน เราใส่ต้นทุนน้ำตาลเพิ่มขึ้นประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประมาณการกำไรปี 2567F ลดลง 6% และเมื่อใช้ PE ที่ 28x ทำให้เราได้ราคา
เป้าหมายปี 2566F ใหม่ที่ 112 บาท

 

ราคาหุ้นตกหนักเกินเหตุ

ราคาหุ้น SAPPE ตกลงมาแรงตั้งแต่ที่มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้เราจะนำราคาน้ำตาลในปัจจุบันมาใส่ในประมาณการ แต่ผลกระทบต่อผลประกอบการปี 2567 ก็ต่ำเพียง 6% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราคิดว่า SAPPE ยังมีช่องให้บริหารจัดการประเด็นนี้ได้จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งนอกจากการปรับประมาณการแล้ว เรามองว่าอัพไซด์ ของราคาหุ้นถึงราคาเป้าหมายของเราก็ยังน่าสนใจ

 

Risks

ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน, เสียสถานะในตลาด, มีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดของ อ.ย.