วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีแกว่งตัว Sideway Down ต่อเนื่อง ปรับตัวลงต่ำสุดถึง -16 จุด แต่ดัชนีลดช่วงลบช่วงท้ายตลาด มีแรงขายหุ้น Big Cap. ทั้งในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และไอซีที จากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่
โดยมีการปรับหุ้นเข้า-ออกดัชนี MSCI Rebalance ช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,380.18 จุด -7.51 จุด -0.54% มูลค่าการซื้อขาย 76,184 ลบ. Program Trading -1,304.37 ลบ. ต่างชาติ -3,704.82 ลบ. TFEX -6,637 สัญญา ตราสารหนี้ +1,046.08 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 520.47 จุด หรือ +1.47% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลง ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า FED จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.0%YoY ในเดือนต.ค. ชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 3.4% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนต.ค. ชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 3.7%
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. 2566, เดือนม.ค. 2567 และเดือนมี.ค. 2567 ก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567 และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนมิ.ย. 2567
+ กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ออกแถลงการณ์ว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสตกลงขยายเวลาการพักรบออกไปอีกอย่างน้อย 1 วัน เพื่อเปิดทางให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้น
+ ตลท.เผยผลสำรวจ CEO บจ. คาดปี 67 GDP เติบโต 3-4% รับปัจจัยหนุนจาก "ท่องเที่ยว-นโยบาย การคลัง-เบิกจ่ายภาครัฐ-การเมืองไทยนิ่ง" จากปีนี้ขยายตัวได้ 2-3% ส่วน ปัจจัยน่ากังวลปี 67 มีความเสี่ยง "หนี้ครัวเรือน" มากที่สุด
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ -2.4% ปิดที่ 75.96 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดเดือนพ.ย.ปรับตัวลง 6.2% หลังกลุ่มโอเปคพลัสตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจในไตรมาส 1 ปีหน้าในปริมาณที่น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- สศอ.ประมาณการ MPI ปี 66 จะหดตัว 4.8% จากเดิมคาดว่าจะหดตัว 4-4.5% GDP ภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะหดตัว 3% จากเดิมคาดไว้หดตัว 2.5-3% ส่วนประมาณการดัชนี MPIและ GDPภาคอุตสาหกรรมปี 2567 คาดว่าจะขยายตัว 2-3%
- สหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ลดลง 1.5%MoM ในเดือนต.ค. แตะระดับ 71.4 ต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี หรือนับตั้งแต่ NAR จัดทำดัชนีดังกล่าวในปี 2544
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound หลังปรับตัวลงแรงก่อนหน้า โดยมีแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลง ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าเฟด จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,370-1,395 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• ยอดส่งออกเดือน ต.ค. เติบโต : ITC AAI CH PDJ NRF XO
หุ้นรายงานพิเศษ
NSL (Bloomberg Consensus 24.63 บาท) "ซื้อ"
บริษัทเร่งเพิ่มสินค้ารองรับช่วง High Season
•รายงานรายได้ 3Q66 เท่ากับ 1,189 ลบ. +17%YoY, +2%QoQ และมีกำไรสุทธิ 77 ลบ. +6%YoY, -8%QoQ สาเหตุมาจากรายได้กลุ่มเบเกอรี่และอาหารรองท้องเพิ่มขึ้นเป็น 1,060 ลบ. +13%YoY, -1%QoQ ขณะที่กำไรสุทธิ 9M66 เท่ากับ 238 ลบ. +8%YoY คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.7% ลดลงจากระดับ 7.5% ใน 9M65
•ผู้บริหารประเมินรายได้ 4Q66-1Q67 มีแนวโน้มเติบโต สาเหตุมาจากบริษัทเร่งออกสินค้าใหม่รองรับช่วง High Season ประกอบด้วย นามะช็อกโกแลต แซนวิชลาบไก่และข้าวแท่ง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น 3Q66 เหลือ 17.6% ลดลงจากระดับ 18.4% ใน 3Q65 เนื่องจากต้นทุนค่าแรงขั้นต่ำในเขต EEC ปรับขึ้น +5%YoY
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 4Q66 เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Peak ของภาคการบริโภคในประเทศประกอบกับบริษัทเร่งออกสินค้าใหม่มากขึ้น คาดหนุนรายได้โตต่อเนื่อง ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรทั้งปี 66 เท่ากับ 318 ลบ. +7%YoY โดย 9M66 คิดเป็น 75% จากประมาณการทั้งปี ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับลง -15%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 19 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 32 เท่า เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) CPALL (Bloomberg consensus 74.00 บาท) ตั้งงบกว่า 3 หมื่นล้านบาท ลุยขยายสาขาทั้งในไทย, กัมพูชา และสปป.ลาว เดินหน้าอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดซื้อต่อใบเสร็จเหนือ 80 บาท หนุนยอดขายต่อสาขาโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้รวมปีหน้าโตสอดคล้อง GDP ที่ราว 3-4% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) GUNKUL (Bloomberg consensus 4.60 บาท) ผนึกพันธมิตร ร่วมพัฒนากลุ่มสินค้าเฮลธ์แคร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดกัญชงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ตั้งเป้าเป็นผู้ส่งออกสินค้ากัญชงและกัญชาทางการแพทย์สู่ตลาดโลก พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายจากรายการสินค้าใหม่ๆ คาดปี 2567 ยอดขายเติบโต 2 เท่าตัว (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BLC (Bloomberg consensus - บาท) ส่งยาสามัญใหม่ ชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 6% ปั๊มมาร์จิ้น 60-70% ในช่วง 10 ปีแรก เล็งรับรู้รายได้จากการผลิตและจำหน่ายภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เล็งขยายตลาดสู่ระดับภูมิภาค เจาะ สปป.ลาว เป็นที่แรก (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SGP (Bloomberg consensus - บาท) เล็งไตรมาส 4/2566 เข้าไฮซีซันธุรกิจ รับอานิสงส์การท่องเที่ยว-ร้านอาหารบูม หนุนความต้องการใช้ก๊าซ LPG และปริมาณการจำหน่ายขยายตัวเพิ่ม ด้านราคาก๊าซปลายปีมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมรับผลรายได้ปี 2566 อาจหย่อน เป้าหมายที่วางไว้ 1.1 แสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)