วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา MSCI Rebalance & US PCE/Core PCE เดือน ม.ค.
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,380 /1,376 จุด แนวต้าน 1,390/1,394 จุด (EMA 10/50 วัน) ทางเทคนิค การปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
ส่งผลต่อภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทยอาจเปลี่ยนจากรูปแบบขาขึ้น (Up Trend) ไปที่ 1,422 จุด มาเป็น รูปแบบแกว่งตัวในกรอบ (Sideways) 1,357-1,405 จุด แทน หากดัชนีฯ ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญ 1,380/1,376 จุด ซึ่งจะทำให้ระดับซื้อเก็งกำไร ปรับลดลงไปที่บริเวณ 1,370/1,357 จุด (เดิม 1,380 จุด)
ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
MSCI Rebalance มีผลต่อราคาปิดวันนี้: โดยคาดว่าจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นจีน จากการถูกถอดหุ้นออกจากการคำนวณจำนวนมากในดัชนีขนาดใหญ่ MSCI Global Standard Indexes (เพิ่ม 5 บจ. และถอด 66 บจ.) และเป็นลบเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะ 5 หุ้นที่ถูกถอดออกจากการคำนวณ ได้แก่ BJC BANPU OSP (MSCI Global Standard Indexes) BEC SUPER (MSCI Small Globall Small Cap Indexes) แต่เป็นบวกต่อหุ้นที่ถูกเพิ่มคำนวณ ได้แก่ TISCO SKY GLOBAL (MSCI Global Small Cap Indexes)
FED Comments: วันนี้จะมีสุนทรพจน์ของประธานเฟด สาขาแอตแลนต้า Bostic, เฟด สาขาชิคาโก Goolsbee: เฟด สาขาคลีฟแลนด์ Mester โดยคาดว่าจะเป็น Slightly Negative Sentiment เพราะมีโอกาสส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ/รายงานผลประกอบการบจ. มีต่อเนื่อง
Global Earnings Results: จับตารายงานผลประกอบการบจ. ที่น่าสนใจ ได้แก่ Dells Technologies (คาด 4Q23E EPS USD1.73 Vs Previous USD1.80) Best Buy (คาด 4Q23E EPS USD2.52 Vs Previous USD2.61) Zscaler (คาด 4Q23E EPS USD0.58 Vs Previous USD0.37) ฯลฯ ส่วนผลประกอบการบจ.ไทย ที่น่าสนใจ ได้แก่ BCH (คาด 4Q23E รายงานกาไร +58.7% YoY, -2.9% QoQ เป็น 428 ล้านบาท)
US: จับตาสัญญาณเงินเฟ้อผ่านการบริโภค ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่เฟดจะใช้พิจารณาก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดย Consensus คาด PCE Price เดือน ม.ค. คาด +0.3% MoM, +2.4% YoY (Vs เดือน ธ.ค. +0.2% MoM, +2.6% YoY) และ Core PCE price เดือน ม.ค. คาด 0.4% MoM, +2.8% YoY (Vs เดือน ธ.ค. +0.2% MoM, +2.9% YoY) โดยหากออกมาปรับขึ้นแรง และสูงกว่าคาด จะทำให้โอกาสที่เฟดคงดอกเบี้ยนโยบายมีต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกปีนี้
US: จับตาสัญญาณรายได้และค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือน ม.ค. Consensus คาด Personal Income เติบโตสูงขึ้น +0.4% MoM (Vs +0.3% MoM) แต่ Personal Spending เติบโตลดลง +0.2% MoM (Vs +0.7% MoM)
Thailand: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน ม.ค. นำโดย Current Account เดือน ม.ค. Consensus คาด +USD0.8bn (Vs เดือน ธ.ค. +USD2.1bn) Private Consumption เดือน ม.ค. คาด +0.1% MoM (Vs เดือน ธ.ค. +0.1% MoM) Private Investment เดือน ม.ค. คาด -0.7% MoM (Vs เดือน ธ.ค. -2.4% MoM)
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ MC SABINA SC
Strategic daily picks
MC ปิด 14.30 บาท/แนวรับ 13.60 บาท แนวต้าน 14.80 บาท
2Q24 (1 ต.ค.-31 ธ.ค. 2023) มีกำไรสุทธิ 283 ล้านบาท +119% QoQ, +14.8% YoY ซึ่งยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่สูงกว่า 64% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 21.5% โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน หนุนให้ 6M24 (1 ก.ค.-31 ธ.ค. 2023) มีกำไรสุทธิ 412 ล้านบาท +13.8% YoY พร้อมจ่ายเงินปันผล 0.50 บาท/หุ้น (PD=12 มี.ค. 2024) นอกจากนี้ บริษัทยังคงสถานะไม่มีเงินกู้กับสถาบันการเงิน ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 15.90 บาท
SABINA ปิด 25.75 บาท/แนวรับ 24.80 บาท แนวต้าน 28.50 บาท
ปี 2023 มีรายได้รวม 3.45 พันล้านบาท +8.3% YoY และกำไรสุทธิ 462.5 ล้านบาท +10.9% YoY ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ และรับรู้รายได้จากฟิลิปปินส์ (ไม่เต็มปี) ดีกว่าคาด ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.4% พร้อมจ่ายเงินปันผล 0.67 บาท/หุ้น (XD=3 พ.ค. และ PD= 17 พ.ค. 2024) นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในทุกช่องทางการขาย หนุนให้รายได้ปี 2024 เติบโต 10% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ Bloomberg Conseneus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 31.63 บาท
SC ปิด 3.34 บาท/แนวรับ 3.22 บาท แนวต้าน 3.56 บาท
ปี 2023 มีกำไรสุทธิ 2.48 พันล้านบาท -2.89% YoY จากขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น และมีรายได้จากการดำเนินงาน 2.45 หมื่นล้านบาท +13.46% YoY จากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร +13.96% YoY ตามการขยายตัวของโครงการและการเติบโตของรายได้ พร้อมจ่ายเงินปันผล 0.16 บาท/หุ้น (XD=2 พ.ค. และ PD=21 พ.ค. 2024) ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 4.28 บาท