วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Bond Yield ลงหนุนตลาด

ประกอบกับนักลงทุนติดตามการรายงาน PCE สหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,380.83 จุด +3.60 จุด +0.26% มูลค่าการซื้อขาย 31,800 ลบ. Program Trading -195.60 ลบ. ต่างชาติ +678.23 ลบ. TFEX +6,948 สัญญา ตราสารหนี้ +7,030.50 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 477.75 จุด หรือ +1.22% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE และการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ FED เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
+ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ตกลงที่จะส่งคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลเดินทางมายังสหรัฐ หลังยกเลิกการเดินทางก่อนหน้านี้
+ กกพ.มีมติเห็นชอบค่าเอฟที เรียกเก็บในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 คงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าพื้นฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วย แล้ว ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น 4.1805 บาทต่อหน่วย ซึ่งเท่ากันกับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน
 

 ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 27 เซนต์ หรือ -0.33% ปิดที่ 81.35 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดน้ำมัน
- สหรัฐและเกาหลีใต้ประกาศตั้งกองกำลังใหม่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นเกาหลีเหนือจากการจัดซื้อน้ำมันผิดกฎหมาย เนื่องจากการดาเนินงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เผชิญกับอุปสรรค ทำให้เกิดความกังขาเกี่ยวกับอนาคตของการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ

 

 

- เหตุการณ์สะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) พังถล่มที่เมืองบัลติมอร์ในรัฐแมรีแลนด์ของสหรัฐ คาดว่าจะส่งผลกระทบยืดเยื้อเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขนส่งถ่านหินและรถยนต์
- สหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 0.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง

แนวโน้มตลาดวันนี้   

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังติดตามดัชนี PCE ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,375-1,385 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• วุฒิสภาเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 : CK STEC TASCO CRANE
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO KOOL
• สินค้าส่งออกเดือน ก.พ. ที่เติบโตดี : NER STA TU ITC AAI HANA KCE

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

BGC "ซื้อเก็งกำไร" (ไม่มีราคาเหมาะสม consensus)
ผลการดำเนินงานปี 67 มีโอกาสพลิกเติบโต

•(-) ปี 66 มียอดขาย 15,005 ล้านบาท เติบโต 6%YoY แบ่งเป็นแก้ว +3.1%YoY และบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ +20.4%YoY จากการควบรวมกิจการในการเข้าถือหุ้น 75% บจ.ไพร์ม แพ็คเกจจิ้งซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและม้วนฟิล์ม ตั้งแต่ก.พ.66 %GP 13.5% +122 bps YoY เฉพาะ 4Q66 มี %GP 15.3% สูงสุดรายไตรมาส แต่ค่าใช้จ่ายดาเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการปิดซ่อมเตา 2 เตา ต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น และภาษีจ่ายเพิ่มขึ้นหลังบัตร BOI หมดอายุ ทำให้กำไรสุทธิลดลง 36%YoY เหลือ 324 ล้านบาท (-24%YoY หากไม่รวมกำไรพิเศษ 80 ล้านบาทจากการจำหน่ายกิจการกลุ่มพลังงาน) %NP 2.2% ลดลงจาก 3.6% ในปี 65 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.08 บาท (งวด 4Q66) XD 26 เม.ย. วันจ่าย 17 พ.ค. yield ทั้งปี 4.51%

•(+) ปี 67 เดินหน้าต่อตามแผนกลยุทธ์ Total packaging solutions มีสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย ได้แก่ แก้ว บรรจุภัณฑ์พลาสติก ฉลากฟิล์ม ฝา กล่องกระดาษ และถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน ตอบโจทย์ความต้องการใช้ที่หลากหลายของลูกค้า

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกจากผลการดำเนินงานในช่วง 2M67 มีแนวโน้มปรับดีขึ้น YoY ขณะที่ต้นทุนพลังงานและมีแนวโน้มลดลง YoY คาดยอดขายได้รับอานิสงส์จากกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัว ราคาหุ้น -21% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มี downside risk ค่อนข้างต่ำ ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 15x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 22x แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว

(+) AMATA (Bloomberg consensus 29.10 บาท) "วิกรม กรมดิษฐ์" เห็นอนาคตยานยนต์ อาหาร การแพทย์โดดเด่น ชี้ตลาดทุนไทยคือส่วนสำคัญ ด้านผู้บริหาร AMATA รับปีนี้แจ่มลูกค้าแห่ซื้อที่ดินโดยเฉพาะจีน พร้อมปรับราคาขายเพิ่ม แบ็กล็อก 1.4 หมื่นล้านบาท รับรู้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50% คาดยอดขายปีนี้มีสิทธิมากกว่า 1,800 ไร่ จ่อยื่นไฟลิ่ง "อมตะยู" ปลายปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SIS (Bloomberg consensus 28.00 บาท) รับทรัพย์ภาพรวมบริการคลาวด์เซอร์วิสปี 2567 โตเท่าตัว ลูกค้าใช้บริการเพิ่ม มองตลาดเติบโตกว่า 40-50% พร้อมลุยตลาดไซเบอร์ซีเคียวริตี้ มองความต้องการใช้งานสูงขึ้น ส่วนธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟ ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งในกลุ่มครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TFG (Bloomberg consensus 4.00 บาท) ปักหมุดปี 2567 รายได้โต 10% รับอานิสงส์ราคาสุกรฟื้นตัว และปัญหาสุกรเถื่อนที่ลดลง คาดยอดขายในเวียดนามพุ่ง 20-25% จากการขยายฟาร์มในปีก่อน ต้นทุนวัตถุดิบเริ่มลด ฟากผู้บริหาร "เพชร นันทวิสัย" ระบุการเปิด Retail Shop ช่วยเพิ่มรายได้บริษัท หนุนผลงานพลิกมีกำไร พร้อมแจก TFG-W4 ฟรี ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาใช้สิทธิ 3.80 บาทต่อหุ้น รองรับแผนขยายธุรกิจ เพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ATP30 (Bloomberg consensus - บาท) ส่องทิศทางธุรกิจไตรมาสแรกสดใส รับปัจจัยหนุนสองเด้ง ต้นทุนลดหลังปรับสภาพรถบริการไปหมดแล้ว แถมราคาน้ำมันปรับตัวลง ดันมาร์จิ้นฟู ด้านบอสใหญ่ "ปิยะ เตชากูล" เร่งเครื่องปั๊ม Net Profit Margin ชน 8% ชูธงรายได้ปี 2567 โตไม่ต่ำกว่า 10% ตุนสัญญาในมือเพียบ (ที่มา ทันหุ้น)