วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตา PCE สหรัฐ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตา PCE สหรัฐ

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในระหว่างวัน แต่มีแรงขายเร่งตัวช่วงท้ายตลาดกดดันดัชนีถึง -10 จุด จากแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มพลังงาน ไอซีที และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่ากดดัน Fund Flow

และความผันผวนจากการ Rollover สัญญา TFEX ซีรี่ย์ H เป็นซีรี่ย์ M ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,370.34 จุด -10.49 จุด -0.76% มูลค่าการซื้อขาย 33,638 ลบ.Program Trading -1,642.74 ลบ. ต่างชาติ -1,808.11 ลบ. TFEX -12,692 สัญญา ตราสารหนี้ +4,239.92 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 47.29 จุด หรือ +0.12% ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างทำสถิติในไตรมาส 1 ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปี ขณะที่นักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงานเมื่อคืนนี้ซึ่งรวมถึง GDP พร้อมกับจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์ หรือ +2.24% ปิดที่ 83.17 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากกลุ่มโอเปคพลัส มีแนวโน้มที่จะยังคงดำเนินนโยบายลดกำลังการผลิต และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในรัสเซียยังคงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ของ GDP 4Q66 ขยายตัว 3.4% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ที่ระดับ 3.3% และ 3.2% ตามลำดับ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.2% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและรัฐบาล รวมทั้งการลงทุนของภาคธุรกิจ
+ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน แสดงความเห็นต่อกลุ่มผู้บริหารธุรกิจชาวอเมริกันที่กรุงปักกิ่งว่าไม่จำเป็นที่สหรัฐและจีนจะต้องแยกออกจากกัน และต้องการให้ธุรกิจสหรัฐลงทุนในจีนต่อไป
+ ญี่ปุ่นรายงานยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.6%YoY ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.0%YoY
 

 

+ กระทรวงคลังกำลังทบทวนมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ในการลดค่าจดทะเบียนการโอนจากเดิม 2% เหลือ 1% และค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% โดยจะขยายให้ราคาซื้อขายเกิน 3 ล้านบาทมีสิทธิเข้าร่วมมาตรการด้วย แต่ให้สิทธิเฉพาะ 3 ลบ. แรก

ปัจจัยลบ 

- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลอัตราว่างงานซึ่งปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.6% ในเดือนก.พ. จากระดับ 2.4% ในเดือนม.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ระดับ 2.4%
- สศอ. เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567 หดตัว 2.84%YoY อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 59.77% ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ช่วง 2M67 หดตัวเฉลี่ย 2.88% สาเหตุหลักจากการผลิต ยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 7 เป็นการหดตัวจากภายในประเทศ
- สมาคมโรงแรมเห็นชอบปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปเป็นเงินวันละ 400 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่13 เมษายน 2567 นำร่องในเขตพื้นที่จังหวัด 10 จังหวัด

แนวโน้มตลาดวันนี้   

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,360-1,370 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• วุฒิสภาเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 : CK STEC TASCO CRANE
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO KOOL
• สินค้าส่งออกเดือน ก.พ. ที่เติบโตดี : NER STA TU ITC AAI HANA KCE

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

KLINIQ "คงคำแนะนำซื้อ" (ราคาเหมาะสม 46.50 บาท)
งวด 4Q66 รายได้และกำไรใกล้เคียงคาด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตา PCE สหรัฐ

•บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 645 ลบ. +9.0%QoQ, +31.1%YoY ใกล้เคียงคาด จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม(SSSG) +6.9%YoY ตามจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มบริการ บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น(%GPM) ที่ระดับ 53.0% ลดลง QoQ, YoY จาก 53.8% ใน 3Q66 และ 56.0% ใน 4Q65 เนื่องจากการเติบโตของรายได้ THE KLINIQUE SURGERY CENTER และ L.A.B.X ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมี %GPM ต่ำกว่าแบรนด์ THE KLINIQUE ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิงวด 4Q66 เท่ากับ 78 ลบ. +9.9%QoQ, +28.3%YoY ใกล้เคียงคาด ส่งผลให้ปี 66 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 2,285 ลบ. +39.4%YoY มีกำไรสุทธิเท่ากับ 289 ลบ. +40.5%YoY เป็นไปตามคาด

•คงคาดการณ์รายได้ปี 67 จำนวน 3,046 ลบ. เติบโต 33%YoY (สอดคล้องกับที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 3 พันลบ. มาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่มีจำนวน 55 สาขา และการเติบโตจากการเปิดสาขาใหม่จำนวน 20 สาขา (เดิมตั้งเป้าเปิด 15 สาขา) เราใช้สมมติฐาน %GPM ที่ระดับ 54.3% ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิ เท่ากับ 365 ลบ. +27%YoY ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 46.50 บาท: ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท เนื่องจากธุรกิจของบริษัท อยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PEG Ratio ที่ 1 เท่า เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของผลประกอบการ โดยคาดว่ากำไรปี 67 จะเติบโต 27% YoY และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 67 เท่ากับ 1.66 บาทต่อหุ้น ทำให้ได้ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 46.50 บาท ราคาเหมาะสมมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 18% ขณะที่คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ในอนาคตราว 3.4% ต่อปี เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(-) ประเด็นลบ TOP SPRC BSRC เนื่องจากรายได้และกำไรหลักมาจากธุรกิจโรงกลั่น โดยวู้ดแมค เปิดเผยบทวิเคราะห์ในวันนี้ (28 มี.ค.) ว่า มากกว่า 1 ใน 5 ของกำลังการกลั่นน้ำมันทั่วโลกอาจจะต้องปิดตัวลง เนื่องจากอัตรากำไรน้ำมันเบนซินอ่อนตัวลง ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากกระแสการลดการปล่อยคาร์บอน

(+) CPN (Bloomberg consensus 83.00 บาท) ดีเดย์เปิด "เซ็นทรัลนครปฐม" วันที่ 30 มีนาคมนี้ หนุนพอร์ตเช่าพุ่งเฉียด 2 ล้านตารางเมตร พร้อมส่งซิกครึ่งแรกปี 2567 ฟอร์มแจ่ม เก็บเกี่ยวค่าเช่าพุ่ง แถมปักหมุดปีนี้รายได้ทะยาน 10% จากปีก่อน อานิสงส์ฐานธุรกิจขยายตัว-ยอดผู้ใช้บริการสดใส (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IMH (Bloomberg consensus - บาท) ตั้งโต๊ะรับทรัพย์ รพ.IMH สีลม เต็มปี ชี้ปีนี้เข้าสู่ภาวะปกติ หลังปีก่อนปรับโครงสร้าง หนุนสินทรัพย์ในมือพุ่งเท่าตัวแตะ 2 พันล้านบาท จากปีก่อน 940 ล้านบาท แย้มหลังสงกรานต์เตรียมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กว่า 3 แสนโดส ปักธงก้าวสู่ "IMH Medical Hub" บริการบัตรทอง 5 แสนสิทธิ ประกันสังคม 3 แสนสิทธิ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ADVICE (Bloomberg consensus 6.50 บาท) โดดรับอานิสงส์ซีพียูเอไอ หนุนครึ่งหลังปี 2567 โดดเด่น พร้อมตอกย้ำปี 2567 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว-แบรนด์แอปเปิ้ลหนุน พร้อมเดินหน้าตั้ง iStudio by Advice แบบสแตนอโลนล็อตแรก เสริมพอร์ตโกยเงินระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)