วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ภาคบริการ EU UK
ทางเทคนิค ยังรอสัญญาณ Break Out ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง ส่งผลต่อ ทิศทางดัชนีฯ วันนี้ คาดเคลื่อนไหว Sideways ต่อเนื่อง (ผันผวนอยู่ในกรอบ 1,368.21-1,389.79 จุด มาตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. เป็นต้นมา) แนวต้าน 1,384/1,392 จุด (EMA 50/75 วัน) แนวรับอยู่ที่ 1,374/1,365 จุด
ภาพใหญ่ ดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Down Channel 1,330-1,396 จุด ส่วนภาพระยะสั้น อยู่ระหว่างเลือกข้างว่าจะเป็น Uptrend เพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบที่ 1,395 จุด (เป้าหมาย 1,405/1,416 จุด ตามลำดับ) หรือจะเลือกเป็น Downtrend หากร่วงหลุด 1,350 จุด (เป้าหมาย 1,330 จุด)
ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
US Fed Officials Comment: จับตาแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟด จากสุนทรพจน์ของประธาน FED Cleveland Mester (Voter) Fed St.Louis Alberto Musalem และ Fed Chicago Goolsbee (Non-Voters)
ECB รายงานผลประชุมธนาคารกลางยุโรปที่ผ่านมา โดยจะเป็นบวกต่อตลาด หากมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดลงในอนาคต
TH การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติ โดยจะเป็นวันสุดท้ายของกาหนดการประชุมสองวัน โดยไม่มีผลต่อสถานะของรัฐบาล
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ:
รายงานตัวเลขภาคบริการเดือน มี.ค.: โดย Consensus คาดว่า EU จะรายงานตัวเลขที่ดีขึ้นเป็น 51.1 (Vs เดือน ก.พ. 50.2) โดยเข้าสู่ระดับการขยายตัวเป็นเดือนที่สอง ขณะที่ UK คาดรายงานตัวเลขลดลงเป็น 53.4 (Vs เดือน ก.พ. 53.8) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ดี การอยู่ในภาวะขยายตัว (ตัวเลขสูงกว่า 50) สะท้อนเศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัว แม้จะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม
US รายงานตัวเลขดุลการค้าเดือน ก.พ. : Consensus คาดขาดดุล -USD67.3bn. (Vs เดือน ม.ค. -USD67.4bn.) โดยหากตัวเลขออกมาดีกว่าคาดการณ์ จะช่วยสนับสนุนตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ 1Q24E GDP เติบโต +2.8% ตามคาดการณ์ของ Fed Atlanta
EU รายงานตัวเลข PPI เดือน ก.พ.: Consensus คาดเติบโตติดลบน้อยลง -0.7% MoM, -8.6% YoY (Vs เดือน ม.ค. -0.9% MoM, -8.6% YoY) ทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของอียูอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสต่อ ECB ในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ BA SHR TACC
Strategic daily picks
BA ปิด 16.20 บาท/แนวรับ 15.70 บาท แนวต้าน 16.70 บาท
บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมปี 2024 โตกว่า 10% จากปีก่อน ตามยอดผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น รับอานิสงส์การเดินทางและการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์จำนวนเที่ยวบินในปีนี้ที่ 4.8 หมื่นเที่ยวบิน, อัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเท่ากับ 85%, จำนวนผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน, รายได้ผู้โดยสาร 1.78 หมื่นล้านบาท และราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินประมาณ 3.9 พันบาท/ที่นั่ง ขณะเดียวกันแนวโน้มการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในต้นปี 2024-2Q24 มีการเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนประมาณ 14% ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 2.08 พันล้านบาท (-33.15% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 20.00 บาท
SHR ปิด 2.58 บาท/แนวรับ 2.48 บาท แนวต้าน 2.78 บาท ปี 2024
บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% จากรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ จัดสรรงบการลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อและควบรวมกิจการ ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนในด้านรายได้และกำไร รวมถึงลดความผันผวนทางฤดูกาลของโรงแรมในเครืออีกด้วย ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 136 ล้านบาท (+8.0% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 3.51 บาท
TACC ปิด 4.78 บาท/แนวรับ 4.62 บาท แนวต้าน 4.94 บาท
บริษัทเปิดตัวและจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่ม “Lychee Jelly Pink” ในร้าน 7-Eleven ซึ่งเป็นการพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven (Key Strategic Partner) เพื่อกระตุ้นยอดขายในร้าน 7-Eleven โดยคาดจะหนุนรายได้ในปี 2024 เติบโต 2 Digit ตามแผนงาน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับสร้างฐานของ New Growth จากนวัตกรรมสินค้า Health and Wellness ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่ง โดยเร็ว ๆ นี้ เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 238.50 ล้านบาท (+15.43% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 6.92 บาท
