วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก STX ผู้ผลิตหินแกรนิต หินปูน และแร่โดโลไมต์
บริษัท สโตนวัน จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเหมืองหิน โดยผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างชนิดหินแกรนิต และหินปูน และแร่โดโลไมต์ (Dolomite) รวมถึงการให้บริการด้านขนส่ง
เพื่อการขนส่งสินค้าและบริหารจัดการควบคุมสต็อคสินค้าให้แก่ลูกค้าที่ไซต์งานอย่างครบวงจร ปัจจุบัน บริษัท และบริษัทย่อย มีเหมืองหิน 2 แห่ง ประกอบด้วย 1) เหมืองหนองข่า (ผลิตและจำหน่ายหินแกรนิต) จังหวัดชลบุรี และ 2) เหมืองจอมบึง (ผลิตและจำหน่ายหินปูนและแร่โดโลไมต์) จังหวัดราชบุรี โดยวัตถุประสงค์ของการเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองหินและแร่ หรือใช้ในการซื้อเหมืองหินและแร่ หรือใช้ในการก่อสร้างอาคารโรงงานรวมถึงการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 67 ที่ 3.08 บาทต่อหุ้น
ประเด็นสำคัญในการลงทุน
• STX ผู้ผลิตหินแกรนิต หินปูน และแร่โดโลไมต์ : ประกอบธุรกิจเหมืองหิน โดยผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างชนิดหินแกรนิต และหินปูน และแร่โดโลไมต์ (Dolomite) รวมถึงการให้บริการด้านขนส่ง โดยมีสัดส่วนรายได้ปี 66 ที่ 85.09% และ 0.10% ตามลำดับ หากแบ่งตามผลิตภัณฑ์หินแกรนิต หินปูน และแร่โดโลไมต์ปี 66 มีสัดส่วน 30.2% 47.9% และ 11.4% ตามลำดับ ทั้งนี้บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิปี 63-65 อยู่ที่ 410.9-279.6 ลบ. และ 33.2-21.6 ลบ. ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการหดตัวเฉลี่ย CAGR ตลอด 2563-2565 ปีที่ -18% และ -19% ต่อปีตามลำดับ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 นอกจากนี้มีการปิดเหมืองหนองข่าชั่วคราวในปี 65 จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากการผลิตเหมืองที่ลึกขึ้น ขณะที่รายได้และกำไรปี 66 เติบโต 32%YoY และ 73%YoY สู่ 316 ลบ. และ 38 ลบ. ตามลำดับ เนื่องจากการขาดแคลนหินก่อสร้างในภาคตะวันออกทำให้ทั้งอุปสงค์และราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นหนุนผลประกอบการ
• คาดความต้องการใช้หินและแร่ในประเทศในปี 2566-2568 ทรงตัว : อุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ และมีอุปสงค์สืบเนื่องมาจากอุตสาหกรรมพื้นฐานที่ใช้หินและแร่เป็นวัตถุดิบ ดังนั้น การผลิต และการใช้หินและแร่สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้หินและแร่เป็นวัตถุดิบ คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridors: EEC) รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวและหนุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและที่มิใช่ที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังสามารถหนุนการทำเกษตรในประเทศอีกด้วย ถึงแม้ว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบด้านบวกจะทำให้เกิดแนวโน้มที่ดีต่อการเพิ่มขึ้นของการผลิต และการใช้หินและแร่ แต่ทั้งนี้ประเทศไทยอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมเพื่อกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ของไทยน่าจะมีแนวโน้มค่อนข้างทรงตัวในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
• คาดผลประกอบการปี 67 เติบโต 21%ต่อปี : คาดปี 67 รายได้และกำไรเติบโต 21%YoY และ 21%YoY สู่ 384 ลบ.และ 46 ลบ. ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากการ 1)ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคใน EEC ตามแผนก่อสร้างปี 66-70 2) การปรับปรุงและก่อสร้างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกปี 67-70 และ 3)การก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบับเฟส 3 เป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้เพิ่มเติม ขณะที่คาดว่าราคาหินที่ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการจากอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นปัจจัยหนุนต่อกำไรเพิ่มเติม
• ประเมินราคาเหมาะสมที่ 3.08 บาทต่อหุ้น : เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Sum of the Part (SOTP) โดย 1) ประเมินมูลค่าธุรกิจปัจจุบันด้วยวิธี PE Ratio ที่ 15.7 เท่าโดยใช้ค่าเฉลี่ยของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่คล้ายคลึงกันและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อาทิ CMAN และ SUTHA ซึ่งแสดงตามตารางด้านล่าง และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 67 ที่ 0.151 บาทต่อหุ้น ได้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 2.37 บาทต่อหุ้น และการซื้อเหมืองใหม่ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF ได้ราคาเหมาะสมอีก 0.71 บาทต่อหุ้น(สมมติฐานปริมาณการขายเหมืองใหม่ 1 ล้านตันต่อปี) ได้ราคาเหมาะสมรวมที่ 3.08 บาทต่อหุ้น
ปัจจัยความเสี่ยง
i) ความเสี่ยงด้านการสำรวจ และการจัดหาแหล่งวัตถุดิบ
ii) ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงปริมาณสำรองของแต่ละเหมืองหมด
iii) ความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นของเหมืองหนองข่า
iv) ความเสี่ยงด้านผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
v) ความเสี่ยงในการต่ออายุประทานบัตร และใบอนุญาตในการประกอบกิจการเหมืองหินและแร่
vi) ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่
vii) ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ
**Globlex Securities เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย