กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ เป็นบวกมากขึ้น ความหวังเฟดลดดอกเบี้ยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ เป็นบวกมากขึ้น ความหวังเฟดลดดอกเบี้ยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง

ตลาดหุ้นไทยน่าจะฟื้นตัวได้ในสัปดาห์นี้ ตามแรงหนุนจากปัจจัยบวกฝั่งสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้ว (29 เมษายน – 3 พฤษภาคม) ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ สอดคล้องกับมุมมองรายสัปดาห์ของเรา

ซึ่งในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทรงตัว ทำให้แรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกลดลง แต่หุ้นไทยยังคงถูกกดจาก i) ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน ii) ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ GDP 1Q67 ของไทยซึ่งอาจจะอ่อนแอกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ และ iii) ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบหากมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

สำหรับในสัปดาห์นี้ (7- 10 พฤษภาคม) เราหันมามองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มของตลาด โดยคาดว่าดัชนี SET น่าจะขึ้นได้บ้าง โดยในประการแรก ตลาดการเงิน (ผ่าน CME Fed Fund Futures) ตอนนี้คาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยสองครั้งรวม 50bps ในปี 2567 หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคนเกษตร (nonfarm payrolls) เดือนเมษายนออกมาน่าผิดหวัง ประการที่สอง ก็เช่นเดียวกันที่เราพูดถึงไปแล้วในบทวิเคราะห์กลยุทธ์เดือนพฤษภาคม ว่าค่าเงินบาทอยู่ในช่วงท้ายของการอ่อนค่าแล้ว และ มีโอกาสสูงที่จะแข็งค่าขึ้นจากระดับปัจจุบันในช่วง 2H67 ในขณะเดียวกัน นักลงทุนควรติดตามกระแสข่าวในประเทศเกี่ยวกับความขัดแย้งรอบล่าสุดระหว่างรัฐบาล และ ธนาคารแห่งประเทศไทย

 

ติดตามปาฐกถาของผู้บริหาร Fed, ผลประกอบการ 1Q67 ของ บจ. ไทย และ กระแสข่าวเรื่องความขัดแย้งเชิงนโยบายระหว่างรัฐบาล กับ ธปท.

ปัจจัยต่างประเทศ: เนื่องจาก FOMC ประชุมจบไป และ มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเดือนเมษายนออกมาแล้ว ดังนั้น ปัจจัยจากทางด้านสหรัฐในสัปดาห์นี้จึงดูไม่ค่อยมีอะไรมาก เรามองว่าปัจจัยที่อาจจะส่งผลให้ตลาดขยับได้แก่ปาฐกถาหลายนัดของประธาน และ ผู้บริหาร Fed ซึ่งเราเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะออกมาในเชิงลดความหวังของนักลงทุนต่อการลดดอกเบี้ยสหรัฐ

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ผลประกอบการ 1Q67 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วง high season ของการส่งงบบริษัทนอกกล่มการเงิน (deadline ของการส่งงบรายไตรมาสคือ วันที่ 16 พฤษภาคม) ii) บทวิเคราะห์ประมาณการ GDP 1Q67 ของไทย (กำหนดประกาศในวันที่ 20 พฤษภาคม) ซึ่งน่าจะออกมาค่อนข้างอ่อนแอ และ อาจจะต่ำกว่า +1.7% YoY ใน 4Q66 และ iii) ความขัดแย้งรอบล่าสุดระหว่างรัฐบาล และ ธปท. เกี่ยวกับท่าทีของ ธปท. ในการไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

 

 

ยังคงเน้นหุ้นธีมหลักอย่างเช่น ธนาคาร, ท่องเที่ยว และ หุ้นที่ผลประกอบการ 1Q67 มีแนวโน้มดี

เรายังคงแนวคิดในการเทรดส่วนใหญ่ตามที่ระบุไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยในส่วนของคำแนะนำระยะสั้น เราได้ถอดหุ้นกลุ่มโรงกลั่น (ราคาน้ำมัน และ GRM ลดลง) และ รับเหมาก่อสร้าง (ความกังวลในประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ) ออกไปจากรายการหุ้นเด่น โดยเรายังคงชอบ i) กลุ่มธนาคารที่กำไรใน 1Q67 มีคุณภาพดีขึ้น อย่างเช่น KBANK* และ KTB* ii) กลุ่มท่องเที่ยวที่ยังคงได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจีน (AAV*, AOT* และ SHR) และ iii) หุ้นกลุ่มที่กำไร 1Q67 มีแนวโน้มฟื้นตัว
แข็งแกร่ง อย่างเช่น OR* และ OSP*