เวสต์เทกซัส 78.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 83.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (8 พ.ค. 67) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับ ราคาน้ำมัน

- ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส และ เบรนท์ ปรับตัวลดลงภายหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ได้ปรับเพิ่มการเติบโตของอุปทานน้ำมันทั่วโลกขึ้น 0.12 มาอยู่ที่ 0.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกลง 0.03 เป็น 0.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับเพิ่ม 0.4% สู่ระดับ 105.41 หลังนักลงทุนพากันถือดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้น้ำมันที่ซื้อขายในสกุลเงินนี้มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

-หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เปิดเผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 พ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 5.1 แสนบาร์เรล ซึ่งสวนทางจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล

+/- กองทัพอิสราเอลได้เข้ายึดพื้นที่ชายแดนเมืองราฟาห์ระหว่างฉนวนกาซาและอียิปต์ ขณะที่หลายฝ่ายกำลังทำการโน้มน้าวให้อิสราเอลและกลุ่มฮามาสทำข้อตกลงหยุดยิง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มมองข้ามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง 
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ลดลง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ในโรงกลั่น Wynnewood ในรัฐโอคลาโฮมา

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการนำเข้าน้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งออกน้ำมันไปยังยุโรปยังคงไม่คุ้มค่า ขณะที่ตลาดจับการประกาศโควต้าการส่งออกรอบ 2 ของจีน