วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SHR กำลังเข้าสู่ช่วง low season
SHR คงเป้าหมาย ปี 2567 ใกล้เคียงเดิมด้วยอัตราการเข้าพักอยู่ราว 50%-55%, ค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) อยู่ที่ US$700-800 และ EBITDA margin อยู่ราว 20%-25%
ขณะที่ กลยุทธการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโต ADR โดยห้องที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่โรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต,โรงแรมทรายหมู่เกาะ พีพี และโรงแรมฟิจิ ทำให้ ADR พุ่งขึ้น 25%, 40% และ 29% YoY ตามลำดับ โดยในปีนี้ โรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ตเริ่มปิดปรับปรุงตกแต่งใหม่ เฟสสองในปลายเดือนเมษายนและกำหนดกลับมาดำเนินงานปกติในปลายปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพิ่มราคาค่าห้องพักได้ราว 15%-20%
เพิ่มการดำเนินงานของโรงแรมที่มอริเซียสและอังกฤษในช่วง 2Q67F-3Q67F
เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล โรงแรมในประเทศไทยและมัลดีฟส์น่าจะมีผลการดำเนินงานลดลง QoQ ใน 2Q67F อาจเป็นเหตุให้กำไรลดลง QoQ อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เราคาดมีโมเมนตัมบวกจากโรงแรมที่อังกฤษและมอริเซียส โดยการดำเนินของโรงแรมที่อังกฤษน่าจะได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและการฟื้นตัวจากผลกระทบของสัญญาเช่าเหมาระยะยาวได้สิ้นสุดลง โดยที่การหมุนเวียนสินทรัพย์ในอังกฤษเป็นไปตามแผน ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปก่อนต้น 3Q67F ส่วนเงินสดที่ได้จากธุรกรรมนี้บางส่วนจะถูกนำไปชำระคืนหนี้เพื่อจัดการต้นทุนการเงิน ขณะที่ โรงแรมที่มอริเซียสจะทยอยกลับมาดำเนินงานปกติต่อเนื่องหลังจากปิดปรับปรุงตกแต่งใหม่เมื่อปีที่แล้ว
คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ไว้เช่นเดิม
เรายืนยันมุมมองว่า SHR น่าจะมีการเติบโตกำไรแข็งแกร่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจากฐานปีก่อนต่ำและคงประมาณการกำไรปี 2567F อยู่ที่ 187 ล้านบาท (+117% YoY) และดีดตัวขึ้นอยู่ที่ 370 ล้านบาท (+97%YoY) ในปี 2568F
Valuation & action
เราคงคำแนะนำซื้อหุ้น SHR ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 3.64 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 11.1x หรือเท่ากับ -0.5S.D.) อย่างไรก็ดี จากที่คาดว่ากำไรจะเข้าสู่ช่วง low season ใน 2Q67F เรามองว่านักลงทุนระยะสั้นอาจเปลี่ยนไปพิจารณา Minor International (MINT.BK/MINT TB)’s* และ The Erawan Group (ERW.BK/ERW TB)*
Risks
เกิดสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, การแข่งขันสูง และการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย