วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BTG ราคาหุ้นตึงแล้ว
เราคาดว่าธุรกิจของ BTG ในกัมพูชาจะได้อานิสงส์จากราคาหมูที่ขยับสูงขึ้น เพราะการระบาดของโรค ASF ในช่วงที่ผ่านมาช่วยหนุนราคาหมูในหลาย ๆ ประเทศของเอเชีย
โดยราคาหมูในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น KHR9,141/กก. ในเดือนเมษายน (+25% QTD) ในขณะที่ราคาหมูในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 6% QTD เป็น 72 บาท/กก. ในเดือนพฤษภาคม
เดินหน้าขยายกำลังการผลิตตามแผน
โรงงานอาหารสัตว์แห่งใหม่ของ BTG ในฉะเชิงเทราจะเริ่มเปิดดำเนินการใน 3Q67F โดยมีกำลังการผลิต 408,000 ตัน/ปี ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตอาหารสัตว์รวมเพิ่มขึ้น 10% นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเพิ่มกำลังการผลิตในทุกหน่วยธุรกิจ โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตหมูอีก 13% เป็น 3.5 ล้านตัว และ จะเพิ่มกำลังการผลิตไก่อีก 7% เป็น 197 ล้านตัว/ปี (Figure 6)
คาดว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นใน 2Q67F
เราคาดว่าผลประกอบการของ BTG จะพลิกฟื้นใน 2Q67F หลังจากที่บริษัทอื่นในกลุ่มพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ผิดคาดใน 1Q67 โดยราคาหมูในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และ ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ในขณะเดียวกัน BTG คาดว่าอุปสงค์จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องจาก 1Q67 โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นจากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตที่สูงขึ้น
Valuation & action
เรา re-rate PER ของ BTG เป็น 15x (เท่ากับ PER ของหุ้นอื่นในกลุ่ม) จากเดิม 12.8x เพื่อสะท้อนถึงความคาดหมายว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นใน 2Q67F เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2567 เป็น 21.10 บาท จากเดิม 18.00 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น PER ที่ 17x ซึ่งดูค่อนข้างตึงแล้ว นอกจากนี้ เรายังคาดว่า BTG จะได้อานิสงส์จากราคาหมูที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศน้อยกว่าเพื่อน เพราะสัดส่วนของธุรกิจในต่างประเทศมีขนาดเล็กกว่า ทั้งนี้ การฟื้นตัวของผลประกอบการ BTG ดูเหมือนจะล่าช้ากว่าบริษัทอื่นในกลุ่ม เพราะค่าใช้จ่าย SG&A สูงกว่า ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำขาย BTG
Risks
ความผันผวนของต้นทุนอาหารสัตว์ และ ราคาขาย, เศรษฐกิจชะลอตัวลง