วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ยังผันผวน

มีแรงซื้อในหุ้นกลุํมไอซีที และพลังงาน มีแรงขายในหุ้นกลุํมปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,332.74 จุด +4.33 จุด +0.33% มูลค่าการซื้อขาย 40,269.7 ลบ. Program Trading -260.9 ลบ. ต่างชาติ -495.9 ลบ. TFEX +12,686 สัญญา ตราสารหนี้ -161.6 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ญี่ปุ่นปรับเพิ่มการประเมินตัวเลข GDP 1Q67 เป็นหดตัว 1.8%YoY ดีกว่าเดิมที่ระบุว่าหดตัว 2%YoY
+ สหรัฐเพิ่มการจัดซื้อน้ำมันดิบเพื่อเติมคลังสำรองน้ำมันปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ หลังจากขายน้ำมันดิบออกจากคลัง เมื่อปี 2565 สูงเป็นประวัติการณ์
+ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าฮ่องกงวางแผนยุติการปิดตลาดหุ้นในช่วงที่มีสภาพอากาศเลวร้ายตั้งแต่เดือนก.ย. โดยจะเปิด ให้มีการซื้อขายได้ตามปกติเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำที่อื่น ๆ ทั่วโลก
+ ทอท.เตรียมแผนรองรับการเพิ่มเที่ยวบิน-เครื่องบิน พร้อมบริหารสนามบินทั้ง 6 แห่งให้คล่องตัวและปลอดภัย คาด มิ.ย.-พ.ย.67 มีผู้โดยสารเข้า-ออก 6 สนามบินรวม 60.3 ล้านคน กว่า 3.8 แสนเที่ยวบิน

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 87.18 จุด หรือ -0.22% หลังการซื้อขายผันผวน จากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ทำให้กังวลว่า FED อาจจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่บรรดานักลงทุนคาดไว้ แตํในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.29%
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 2 เซนต์ หรือ -0.03% ปิดที่ 75.53 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดตํอกัน จากความกังวลวำ อุปสงค์น้ำมันอาจจะลดลง
- สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่งและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
 

-เศรษฐกิจเอเชียตกต่ำทำ "จีน-ญี่ปุ่น" เที่ยวไทยต่ำกว่าเป้าททท.เดินหน้ากระตุ้นยอดดึง 4 อินฟลูเอนเซอร์หวังอี้ป๋อ-จ้าวลู่ซือ-เซียวจ้าน-ไป๋ลู่ นั่งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์
- สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนระหว่ง 1 มกราคม-7 มิถุนายน 2567 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,662.09 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,461.18 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 88,204.79 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 88,003.88 ล้านบาท
- นิด้าโพล เผยประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่พอใจกับผลงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มตัวอย่าง 34.35% ระบุไม่ค่อยพอใจ รองลงมา 31.69% ระบุไม่พอใจเลย

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกรํง ทำให้เกิดความกังวลว่า เฟด อาจจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ยังติดตามประเด็นการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,325-1,340 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• สินค้าส่งออกเดือน เม.ย. เติบโตดี : AAI ITC STA NER TRUBB XO TFG BTG
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET50 เข้า : BCP BJC ITC TIDLOR ออก : BANPU COM7 KCE SAWAD
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET100 เข้า : BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH
ออก : AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN
• มาตรการลดภาษีเที่ยวเมืองรอง : ERW CENTEL BA AAV TNP CPALL

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TACC "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 7.60 บาท Upside 55% 
"มุมมองบวกต่อแนวโน้ม 2Q67 คาดจะเติบโต YoY และ
QoQ จากสภาพอากาศร้อนจัด"

•งวด 1Q67 มีกำไร 61 ลบ. +43%YoY +4%QoQ ตามคาด โดยมีรายได้ 458 ลบ. +21%YoY ทรงตัว QoQ แม้ผ่านพ้นช่วง High Season โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) กำลังซื้อผู้บริโภคทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวฟื้นโตดี 2) การขยายสาขา 7-Eleven ทั้งในประเทศและกัมพูชา 3) อานิสงส์จากมาตรการลดหย่อนภาษี Easy e-receipt และ 4) เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนเร็วกว่าปกติ ส่วน %GPM เร่งดีขึ้นมาที่ระดับ 33.9% (1Q66 = 31.5%, 4Q66 = 33.1%) จากการล็อคราคาซื้อวัตถุดิบและมีการปรับราคาขายตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อน โดยกำไร 1Q67 61 ลบ. คิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปี 67 ที่ 242 ลบ. +17%YoY

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 คาดจะเติบโต YoY และ QoQ จากสภาพอากาศร้อนจัดช่วยหนุนการบริโภคเครื่องดื่ม ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีปัจจัยเติบโตจากกลุ่ม 7-Eleven (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) และ Non 7-Eleven (Character Business, Bon Cafe, กาแฟพันธุ์ไทย, HIP และ TRIVA เป็นต้น) โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยที่มีแผนขยายสาขาเชิงรุกซึ่งคาดปีนี้เปิดเพิ่ม 400 สาขา โดยปัจจุบันมี 947 สาขา และคาดอีก 5 ปี จะมีทั้งหมด 5,000 สาขา ทั้งนี้ เราคงประมาณการรายได้และกำไรปี 67 ราว 1,847 ลบ. +8%YoY และ 242 ลบ. +17%YoY ตามลำดับ และราคาเหมาะสม 7.60 บาท Upside 55% แนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) ADVANC (Bloomberg consensus 260.00 บาท) เผย ARPU ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่และ บรอดแบนด์เติบโตต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์การนำเสนอบริการแบบเฉพาะเจาะจง เข้าถึงความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม มั่นใจภาพรวมปีนี้ TTTBB ไมํขาดทุน ล่าสุดผนึก GULF และ สวพส. มอบ โซลาร์เซลล์พื้นที่ห่างไกล (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WARRIX (ราคาเหมาะสม 7.05 บาท) กระแสแรง ชี้ยอดขายเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยดีต่อเนื่อง ทุกช่องทางขาย แห่เชียร์ขอบสนามบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มซี นัดสุดท้ายพรุํงนี้ (11 มิ.ย.) พบทีมชาติสิงคโปร์ มีลุ้นผำนเข้ารอบ 3 มั่นใจรายได้ไตรมาส 2/2567 พุ่งแรงเมื่อเทียบกับ Q2/2566 จากกระแสฟุตบอล-ฟุตซอล-งบรัฐ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JSP (Bloomberg consensus - บาท) เดิมเกมรุกตลาดกลุ่มผู้สูงวัย หลังกวาดยอดขาย 5 เดือนทะลุ 300 ล้านบาท พร้อมปรับเป้าทั้งปีแตะ 800 ล้นบาท จาก 700 ล้านบาท แย้มครึ่งปีหลังลุยเพิ่มจำนวนคลินิกฟอกไตใกล้ชุมชน เตรียมเปิดตัวอาหารเสริมแบรนด์ใหม่ให้ผู้ป่วยโรคไต พร้อมส่ง เกรซ วอเทอร์ เมด เข้าเทรดในตลาดไลฟ์เอ็กเช้นจ์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CHG (Bloomberg consensus 3450 บาท) ชูศูนย์ Medical Center หนุนรายได้ปีนี้โต 15% แนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะคนไข้เงินสด เผยครึ่งปีหลังมีแผนขยายเตียงเพิ่มกวำ 70 เตียง พร้อมวางเป้าขยายเป็น 800 เตียง ใน 5 ปี (ที่มา ทันหุ้น)