เวสต์เทกซัส 83.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 86.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (2 ก.ค. 67) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 2% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในดินแดนเลบานอน ซึ่งล่าสุดมีการสู้รบกันอย่างดุเดือด ทำให้เกิดความกังวลว่าการสู้รบดังกล่าวอาจจะลุกลามกลายเป็นการทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบกับประเทศเลบานอน
+ นักลงทุนจับตาฤดูพายุเฮอริเคนที่เริ่มขึ้นในอเมริกาเหนือ ซึ่งอาจกระทบต่อการผลิตน้ำมันในบริเวณดังกล่าวได้ โดยล่าสุดพายุเบริล (Beryl) ซึ่งเป็นพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นในทะเลแคริเบียน คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศจาไมกาในวันที่ 3 ก.ค. 67 และจะพัดเข้าสู่คาบสมุทรยูคาตันในเม็กซิโกในวันที่ 5 ก.ค. 67 ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพัดเข้าสู่ชายหาดกัมเปเชในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันของเม็กซิโกในวันที่ 7 ก.ค. 67
-/+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. 67 ปรับตัวลดลงเหลือ 48.5 จากระดับ 48.7 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งหดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและความต้องการสินค้าที่ลดลง บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อไป
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังไต้หวันชะลอการส่งออกน้ำมันเบนซินจากเดือน มิ.ย. 67 เป็นเดือน ก.ค. 67 เนื่องจากการหยุดดำเนินการของโรงกลั่น Mailiao นอกจากนี้ การส่งออกน้ำมันเบนซินของเกาหลีใต้ในเดือน พ.ค. 67 ปรับลดลง 3.6% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลัง อุปสงค์น้ำมันดีเซลในอินเดียมีแนวโน้มปรับลดลงจากช่วงฤดูมรสุมที่เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย. 67 จนถึงเดือน ก.ย. 67 ขณะที่อุปสงค์น้ำมันดีเซลในยุโรปคาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว
