วิเคราะห์หุ้น : บล.กรุงศรี COMMERCE - SSSG มิ.ย. ยังหดตัวใกล้เคียง พ.ค. กดจากกลุ่มซ่อมบ้าน
เรามอง “ลบเล็กน้อย” ต่อภาพรวม SSSG เดือนมิ.ย.24F ที่ยังอ่อนแอ ทำให้ SSSG 2Q24F ของกลุ่มค้าปลีกแย่ลงกว่า 1Q24 เรากังวลมากขึ้นต่อการเกิด downside ด้านการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของผู้ประกอบการเกือบทุกรายในกลุ่มนี้ยกเว้น CPALL และ CPAXT
ทั้งนี้ เบื้องต้น เราประเมินผลกระทบในช่วง –(3-6)%ของประมาณกำไรทั้งปี 24F ในขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาปรับลง -10% อ่อนแอกว่า SET -5% จนซื้อขาย PER เหลือ 24.7 เท่า ลงมาซื้อขายใกล้ช่วงปีโควิด (ปี 20) หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1.25SD จึงมองเป็นจังหวะเลือกลงทุน เราให้ CPALL (TP80.0) และ CPAXT (TP39) เป็นหุ้นเด่นกลุ่ม ชอบที่ i) คุณภาพการเติบโตของกำไรที่มาจากทั้ง SSSG บวกสูงกว่ากลุ่ม กับการปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร ii) ได้ประโยชน์สูงจากกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าที่จะค่อยๆฟื้นใน 2H24F และ iii) ระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างกิจการ
ประเด็นสำคัญ
- ภาพรวมการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เดือนมิ.ย.24 ของกลุ่มค้าปลีกยังหดตัว –(1-2)% ใกล้เคียงกับเดือน พ.ค. 24 (ตามตาราง 1) เพราะกลุ่มซ่อมแซมบ้านหดตัวมากขึ้นเทียบกับพ.ค.24 โดยเฉพาะ HMPRO ที่ -6-8% จาก -4-6% ในพ.ค.24 ทั้งนี้ เราคาดเกิดจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งนี้ มีเพียงกลุ่มผู้ขายสินค้าในชีวิตประจำวันและห้างสรรพสินค้า (BJC,CPALL,CPAXT,CRC) ที่ SSSG มีสัญญาณดีขึ้นกว่าเดือนพ.ค. เราคาดเกิดจากจำนวนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีมากกว่าปีก่อนและการจัดโปรโมชั่นกระตุ้น รวมถึง บางผู้ประกอบการ (CRC) ได้อานิสงส์สาขาใหญ่ทยอย renovate เสร็จ ผู้ประกอบการที่ยังมี SSSG แข็งแกร่งสุด คือ CPAXT และ CPALL (+3-4%)
- SSSG 2Q24F ของกลุ่มค้าปลีก (-1%) อ่อนแอกว่า 1Q24 (flat) สาเหตุหลักมาจากกำลังซื้อฟื้นช้า , มาตรการกระตุ้นภาครัฐน้อยลง (1Q24 มี easy e-receipt) และสภาพอากาศ ทั้งนี้ เราจำแนกทิศทาง SSSG ของกลุ่มค้าปลีกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
i) กลุ่มที่ยังมี SSSG เป็นบวก คือ CPAXT (+2-3% ใกล้กับ 1Q24 +3.4%) และ CPALL (+3-4% vs 1Q24 +4.9%)
ii) กลุ่มที่มี SSSG ติดลบแต่ดูดีขึ้นกว่า 1Q24 คือ DOHOME (-6% vs 1Q24 -9.8%) และ GLOBAL (-2.5% vs 1Q24 -5.4%)
iii) กลุ่มที่ SSSG ติดลบและอ่อนแอลงจาก 1Q24 ได้แก่ HMPRO (-6% จาก 1Q24 -2.1%) , BJC (-1-2% จาก 1Q24 +0.1%) และ CRC (-1-2% จาก 1Q24 +1%)
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามอง ‘Slightly negative’ ต่อภาพรวม SSSG เดือนมิ.ย.24F ที่ยังอ่อนแอ ทำให้ SSSG 2Q24F ของกลุ่มค้าปลีกแย่ลงกว่า 1Q24 เรากังวลมากขึ้นต่อการเกิด downside ด้านการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของผู้ประกอบการเกือบทุกรายในกลุ่มนี้ยกเว้น CPALL, CPAXT โดยเราห่วงสุดคือ BJC เพราะค่าใช้จ่ายประจำค่อนข้างสูงและปี 24F เสียภาษีอัตราสูงขึ้น
- อย่างไรก็ดี เราคาดกำไรปกติ 2Q24F กลุ่มค้าปลีกจะโตดี y-y ขับเคลื่อนจากประสิทธิภาพการทำกำไรที่สูงขึ้น หลังหลายบริษัทปรับกลยุทธ์ใช้แผนพยายามเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่ม High margin ทั้งนี้ เราคาด GPM ขึ้น y-y เด่นสุดคือ CPALL , DOHOME ดังนั้น คาดกำไรปกติของ DOHOME และ CPALL จะโตเด่นสุดในกลุ่ม สำหรับ q-q เราคาดกำไรกลุ่มจะลงตามฤดูกาล (ตามตาราง 2)
- เชิง valuation เราเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับลงสะท้อนข่าวลบบ้างแล้ว ทั้งนี้ แม้ระยะสั้นทิศทางกำไรปกติปี 24F กลุ่มค้าปลีกที่เราคาด 6.03 หมื่นลบ. เติบโต +20% อาจมี downside จากฝั่ง SSSG ปี 24F ที่อาจต่ำกว่าเราคาดไว้ +3% (บนสมมติฐาน GDP +2-3%) อย่างไรก็ตาม เราประเมิน downside ที่จะเกิดมีผลกระทบจำกัดในช่วง –(3-6)%ของประมาณกำไรทั้งปี ในขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาปรับลง -10% อ่อนแอกว่า SET -5% จนซื้อขายเหลือ 24.7 เท่า ลงมาซื้อขายใกล้ช่วงปีโควิด (ปี 20) หรือ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1.25SD จึงมองเป็นจังหวะเลือกลงทุน
- คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มค้าปลีก ‘BULLISH’ แม้ระยะสั้นกำลังซื้อยังไม่ดีเพราะเผชิญสัดส่วนหนี้ครัวเรือนสูงและความกังวลเกี่ยวกับแผนการออกมาตรการกระตุ้นภาครัฐ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าราคาหุ้นปรับลงสะท้อนบ้างแล้วและเรายังไม่รวมผลบวก Digital wallet ในประมาณการอยู่แล้ว จึงมองเป็นจังหวะสะสม เลือก CPALL (TP80.0) และ CPAXT (TP39) เป็น top picks กลุ่มโดยชอบที่ i) คุณภาพการเติบโตของกำไรปกติที่มาจากทั้ง SSSG ที่เป็นบวกสูงกว่ากลุ่มและ GDP กับการปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร ii) มองเป็นผู้ประกอบการที่จะได้ประโยชน์สูงจากกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าที่จะฟื้นใน 2H24F และ iii) ระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างกิจการ CPAXT (CPALL ถือ 60%) เป้า 5 พันลบ.ภายใน 3 ปี