วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี SVI ตกรถไฟ
เรากลับมาศึกษาหุ้น SVI ด้วยคำแนะนำ “ถือ” เพื่อรอดูโอกาสใหม่ ๆ ข้างหน้า จากวัฏจักรการฟื้นตัวรอบใหม่ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เพราะอุปสงค์จากการกลับมาตุนสต็อก (restocking) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
เราคาดว่ากำไรใน 2Q24 จะลดลงจาก 1Q24 เพราะอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากมีโครงการที่มีกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน 1Q24 เราประเมินราคาเป้าหมายที่ 8.40 บาท อิงจาก PER +0.25SD
กำลังเข้าสู่วัฏจักรรอบใหม่ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
เราคาดว่าจะเห็นภาพการกลับมาตุนสต็อกในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ชัดเจนมากขึ้นใน 2H24 โดยอิงจากโมเมนตัมคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกของไต้หวัน ซึ่งเร่งตัวขึ้นติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว และ น่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นตัวใหม่สำหรับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึง SVI ด้วย เราคิดว่าช่วงที่มีการตุนสต็อกจะทำให้แนวโน้มอุปสงค์ทั่วโลกดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อคำสั่งซื้อใหม่ของ SVI
คาดว่าจะเติบโตได้จำกัด เพราะสินค้าไม่เกี่ยวข้องกับ AI
ถึงแม้ว่า SVI จะไม่มีสินค้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระแส AI แต่ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทจะมาจากคำสั่งซื้อใหม่ห้ารายการ ซึ่งจะทำให้รายได้ของ SVI เพิ่มขึ้น USD100 ล้าน ดังนั้น เราจึงคาดว่ารายได้ของ SVI จะพลิกฟื้นมาเพิ่มขึ้น 7.9% เป็น 2.45 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ เรายังคาดว่า GPM ในปี FY24F จะเพิ่มขึ้นเป็น 8.8% (จาก 8.1% ในปี FY23) ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ SVI จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 พันล้านบาท (+27% yoy)
ประมาณการ 2Q24
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะลดลงเหลือ 222 ล้านบาท (-11% yoy, -21% qoq) เนื่องจาก i) รายได้ลดลงเหลือ 5.3 พันล้านบาท (-6% yoy, +5% qoq) ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้น qoq จะเป็นเพราะมุมมองต่ออุตสาหกรรมในภาพรวมดีขึ้น และ เงินบาทอ่อนค่าลง และ ii) คาดว่า GPM จะลดลงเหลือ 8.6% จาก 8.7% ใน 2Q23 และ 10.6% ใน 1Q24
กลับมาศึกษาหุ้น SVI ด้วยคำแนะนำ “ถือ”
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มสดใสในช่วงปลายปี FY24F ถึงแม้ SVI ไม่น่าจะได้อานิสงส์มากนักจากการใช้งงาน AI แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ SVI น่าจะผ่านจุดต่ำสุดเมื่อปีที่แล้วไปแล้ว โดยจะได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่, การฟื้นตัวของอุปสงค์กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และ GPM ที่ดีขึ้น ดังนั้น เราจึงประเมินราคาเป้าหมายที่ 8.40 บาท อิงจาก PER ที่ 15x (PER เฉลี่ยในอดีต +0.25 SD) เราแนะนำแค่ถือ SVI เพราะราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคมแล้วถึงเกือบ 50% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราศึกษาอยู่ ในขณะที่เราคาดว่าราคาหุ้นน่าจะแผ่วลงตามผลประกอบการ 2Q24 ที่แผ่วลง