วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา US Earnings & EU Inflation
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,317/1,310 จุด แนวต้าน 1,325/1,331 จุด (EMA 50 วัน) ภาพระยะสั้นดัชนีฯ เริ่มมีความเสี่ยงเชิงลบเพิ่มขึ้น หลังจากดัชนีฯ ไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสาคัญ 1,331 จุด (EMA 50 วัน) ขึ้นไปได้เป็นวันที่สาม
ทำให้เพิ่ม ความเสี่ยงต่อดัชนีฯ อาจพลิกเป็นรูปแบบขาลง (M-Shape ลงไปที่ 1,291 จุด) หากดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญ 1,317 จุด ดังนั้น เราคงคำแนะนำ ทยอยขายทำกำไร เพื่อรอซื้อคืนเมื่อมีสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
US: 2Q24E Earnings Results จับตารายงานผลกำไร Johnson & Johnson (J&J) คาด EPS USD2.71 Vs Previous USD2.80; US Bancorp คาด EPS USD0.95 Vs Previous USD1.12; ProLogis คาด EPS USD0.62 Vs Previous USD1.31; United Airlines Holdings คาด EPS USD3.98 Vs Previous USD5.03
US: การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน เพื่อเสนอตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันสุดท้าย ที่รัฐ Milwaukee คาดมีมติเลือก Trump เป็นตัวแกนของพรรคฯ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงเชิงลบต่อ Trade War มากขึ้นในอนาคต
US: สุนทรพจน์ Fed สาขา Richmond Thomas Barkin (Voter) ที่ Landover รัฐแมรี่แลนด์
UK: กษัตริย์อังกฤษกล่าวแนะนำนายกฯ อังกฤษคนใหม่ Keir Starmer
CH: การประชุมคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ (Third Plenum) เป็นวันที่ 3 จากกำหนดการ 4 วัน ระหว่างวันที่ 15-18 ก.ค. (รอลุ้นแผนปฏิรูปนโยบายเชิงลึก โดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจ)
TH: Digital Wallet สภาผู้แทนฯ พิจารณาวาระแรก ขั้นรับหลักการในวันที่ 17 ก.ค. โดยมีกมธ. วิสามัญ 32 คน พิจารณา ทั้งนี้ รัฐบาล คาดว่าสภาฯ จะพิจารณาวาระ 3 ของงบประมาณปี 2024 แล้วเสร็จปลายเดือน ก.ค. หรือต้นเดือน ส.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
EU: รายงานเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. (Final) โดย Consensus คาด +0.2% MoM, +2.5% YoY (Vs เดือน พ.ค. +0.2% MoM, +2.6% YoY) และ Core Inflation Rate เดือน มิ.ย. คาด 2.9%YoY (เท่ากับเดือน พ.ค.ที่ 2.9%YoY)
US: รายงานตัวเลข Housing Starts เดือน มิ.ย. โดย Consensus คาด +3.1% MoM (Vs เดือน พ.ค. -5.5% MoM ) เป็น 1.31 ล้านหน่วย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องระดับ 1.47-1.5 ล้านหน่วย ในช่วง 3Q-4Q24E ตามลาดับ ส่วนตัวเลขเกี่ยวกับภาคการผลิต พบว่า มีสัญญาณทรงตัว โดยIndustrial Productions เดือน มิ.ย. คาด +0.3% MoM, +0.4% YoY (VS เดือน พ.ค. +0.7% MoM, +0.1% YoY) Manufacturing Production เดือน มิ.ย. คาด -0.3% MoM, +0.3% YoY (Vs เดือน พ.ค. +0.6% MoM, -0.3% YoY)
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่มีประเด็นบวก ได้แก่ STEC GULF AMATA
Strategic daily picks
STEC ปิด 9.25 บาท/แนวรับ 9.00 บาท แนวต้าน 9.75 บาท
STEC เผยใน 2H24 คาดธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะมีปริมาณงาน (Backlog) ราว 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีงานของบริษัทลูกเข้ามาเติมราว 8 พันล้านบาท และคาดจะมีงานโครงการภาครัฐบาลเข้ามาเติม Backlog งานรับเหมาก่อสร้าง ณ สิ้นปี 2024 ให้กลับมายืนเหนือ 1 แสนล้านบาท รองรับรายได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนธุรกิจสาธารณูปโภค บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และมีสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) แล้ว เพื่อจะสามารถรับรู้รายได้ทันที เบื้องต้นคาดจะมีความชัดเจนภายใน 3Q24 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกาไรสุทธิ 2Q24 ที่ 325 ล้านบาท (+90.07% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 10.30 บาท
GULF ปิด 42.25 บาท/แนวรับ 41.00 บาท แนวต้าน 44.25 บาท
KTX มองว่าการควบรวมในรูปแบบ Amalgamation ระหว่าง GULF (อัตราส่วน 1 หุ้น GULF ต่อ 1.02974 หุ้น NewCo) และ INTUCH (อัตราส่วน 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้น NewCo) จะเป็น win-win situation สำหรับ GULF ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน โดยคาด NewCo จะมีศักยภาพการขยายการลงทุน ภายใต้ฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น และอัตราส่วน D/E ที่ลดลง ทั้งนี้ หากใช้มูลค่าเหมาะสมของ Bloomberg Consensus สำหรับ GULF ที่ 55 บาท และ INTUCH ที่ 80 บาท ทาให้ KTX คาดมูลค่าเหมาะสมของ NewCo จะอยู่ที่ 60 บาท ดังนั้น แนะนำ ซื้อ GULF เพื่อแลกหุ้น NewCo ขณะที่นักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว ถือเพื่อแลกหุ้นตามขั้นตอน
AMATA ปิด 22.20 บาท/แนวรับ 21.80 บาท แนวต้าน 23.00 บาท
KTX คาดแนวโน้มกำไรมีโมเมนตัมสูงขึ้นใน 2Q24E จากปัจจัยฤดูกาลที่ปกติจะมียอดโอนที่ดินสูงใน 2Q และ 4Q เป็นปกติ ขณะที่ประเมินยอดโอนปี 2024E-25E ที่ 1.1 และ 1.4 พันไร่ ตามลาดับ โดยยอดโอนข้างต้นค่อนข้างที่จะปลอดภัยจากฐาน backlog ของบริษัทที่สูงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ณ สิ้น 1Q24 บริษัทมี backlog ที่สูงถึง 1.4 หมื่นล้านบาท (คาดเทียบเท่า 2.4 พันไร่) ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 28.00 บาท อิงอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 7.9%
