วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

บวกกับแรงซื้อในหุ้นกลุ่มไอซีที ได้แรงหนุนจาก Data Center มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จากสหรัฐออกมาตรการคุมส่งออกชิปให้จีน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,324.76 จุด +4.97 จุด +0.38% มูลค่าการซื้อขาย 44,630.96 ลบ. Program Trading +1,536.37 ลบ. ต่างชาติ +1,292.49 ลบ. TFEX +14,795 สัญญา ตราสารหนี้ -582.60 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ /- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตาม การคาดการณ์ของตลาด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 3.75% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 4.50% หลังจากมีมติลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งก่อน โดยระบุว่าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 229,000 ราย
+ ตลท.เดินหน้ายกระดับ เพิ่มความเข้มประเมินความยั่งยืนบจ. ใน SET ESG Ratings เทียบชั้นสากล เน้นนำข้อมูลเปิดเผย สู่สาธารณะทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เล็งทำความเข้าใจกับบจ.ช่วงปลายก.ค. 67
+การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาอนุมัติปรับเงื่อนไขการลงทุนของกองทุน Thai ESG โดยจะทยอยเสนอครม.เพิ่มเงินลงทุนในกองทุนวายุภักษ์เร็วๆ นี้

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 533.06 จุด หรือ -1.29% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่สอง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนของสหรัฐ

 

 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3 เซนต์ หรือ -0.04% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยนักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัว ของเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งอาจทำให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลง และแนวโน้มที่เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแจ้งให้บรรดาชาติพันธมิตรทราบว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาบังคับใช้มาตรการด้านการค้าที่เข้มงวดมากที่สุด หากบริษัทต่าง ๆ เช่น ยังคงปล่อยให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง
- โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับ ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง แผนการของเขาที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 60% จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ปัจจัยในประเทศจับตาการประกาศงบของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,320-1,330 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน DATA CENTER และ CLOUD SERVICE : GULF ADVANC TRUE INSET ITEL
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT CPALL MINT TU
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield อ่อนตัว : SAWAD MTC TIDLOR BGRIM GPSC GULF
• หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ได้แก่ CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

ICHI "ซื้อ" ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 21 บาท upside 27%
คาดรายได้ 2Q67 เติบโต QoQ และ YoY เข้าสู่ช่วง High season

•1Q67 บริษัทฯ มีรายได้ 2,154 ลบ. +2%QoQ +17%YoY เนื่องจากยอดขายภายในประเทศเพิ่มขึ้น 17% จากการขยายตัวของกลุ่มตลาดชาพร้อมดื่ม และมียอดขายจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 11% จากการรับจ้างผลิต (OEM) โดยมี อัตรากำไรขั้นต้น 26% ใน 1Q67 เพิ่มขึ้นจาก 25% ใน 1Q66 เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตมากขึ้น ทำให้เกิด Economies of Scale นอกจากนี้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร -14%QoQ +9%YoY และมีส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าที่อินโดนีเซีย 12 ลบ. +253%QoQ +21%YoY ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 364 ลบ. +23%QoQ +64%YoY

•ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิต 1,500 ล้านขวด/ปี และมีอัตราการใช้กำลังผลิต ที่ 77% โดยปีนี้บริษัทฯ วางแผนขยายกาลังการผลิต 200 ล้านขวด/ปี ในช่วง 4Q67 และเพิ่มอัตราการใช้กำลังผลิตเป็น 80% เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดชาพร้อมดื่ม

•ความเห็น : มีมุมมองบวก เนื่องจากช่วงไตรมาส 2 เป็นช่วง High season บวกกับแนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มยังแข็งแกร่ง สอดคล้องกับแผนขยายกำลังการผลิต Bloomberg consensus คาดกำไร 2Q67 ที่ 393 ลบ. +8%QoQ +54%YoY คาดกำไรปี 67 ที่ 1,288 ลบ. +17%YoY ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 4%YTD ซื้อขายที่ P/E 17x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 71.1X Upside 27% ราคาเหมาะสม 21 บาท เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) LTS (Bloomberg Consensus - บาท) ใส่เกียร์ลุยงานช่วงครึ่งปีหลังเต็มที่ คาดโกยได้อีก 1-2 งาน มูลค่าราว 100 ล้านบาท ล่าสุดคว้างานดาต้าเซ็นเตอร์ มูลค่า 101.5 ล้านบาท ดีเดย์ส่งมอบงานวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้ พร้อมบุ๊กรายได้ทันที ฟากผู้บริหารเล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้โตเกิน 20-30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CHAO (Bloomberg Consensus 56.00 บาท) ฟุ้งครึ่งหลังปี 2567 ผลงานกระหึ่ม ดีมานด์ทะลัก-สินค้าใหม่หนุน พร้อมปักหมุดปีนี้รายได้ทะยาน 15% จากปีก่อน อานิสงส์พอร์ตลูกค้าโตเด่น แถมรุกตลาดขนมขบเคี้ยวหมูแท่งกรอบ ส่งแคมเปญ "มู หมู่ มู่ มู้ หมู หมูแท่งกรอบเจ้าสัว" ดึงกลยุทธ์ "มูเก็ตติ้ง" เสริมความปัง ดันยอดขายโตเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TAN (Bloomberg Consensus 19.00 บาท) ส่งบริษัทย่อย หาญ เกรทเทอร์ ไชน่า ผนึกกำลังพันธมิตรส่งแบรนด์ HARNN บุกประเทศจีน เล็งเปิดสาขาแรกที่เมืองหางโจว ตั้งเป้าหมายขยายจุดขาย 2,000 แห่ง และแฟรนไชส์สปา 50 แห่งภายใน 3 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) OR (Bloomberg Consensus 20.60 บาท) เปิดตัว found&found ร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงาม 3 สาขาแรกอย่างเป็นทางการ ด้วยคอนเซ็ปต์ "SIMPLE. EASY. EVERYSKIN." เอาใจคนรักสุขภาพและความงาม โดยมีแผนเปิดครบ 10 สาขาในปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)