กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ แนวโน้มฟื้นตัว ปัจจัยภายในเป็นบวกมากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ แนวโน้มฟื้นตัว ปัจจัยภายในเป็นบวกมากขึ้น

SET Index น่าจะแกว่งขึ้นได้ในสัปดาห์นี้ เพราะปัจจัยภายในประเทศเป็นบวกมากขึ้น ในสัปดาห์ที่แล้ว (15-19 กรกฎาคม) ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบตามที่เราคาดการณ์ไว้

โดยหุ้นบางกลุ่มอย่างเช่น ICT ได้แรงหนุนจากดีล M&A ระหว่าง GULF* และ INTUCH* แต่ตลาดโดยรวมยังคงถูกกดดันจากปัจจัยดังต่อไปนี้

ปัจจัยแรก คือ ตลาดรับรู้แล้วว่า Fed จะลดดอกเบี้ยแรงขึ้น โดยน่าจะลดสองหรือสามครั้งในปี 2567

ปัจจัยที่สอง คือ หุ้นที่โยงกับเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากการที่ GDP 2Q67 ของจีนขยายตัวต่ำเกินคาดที่ 4.7% YoY ในขณะที่ consensus คาดไว้ที่ 5.1% YoY

สำหรับในสัปดาห์นี้ (23-26 กรกฎาคม) เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะฟื้นตัวได้ จากปัจจัยดังต่อไปนี้

ปัจจัยแรก คือ ประเด็นเศรษฐกิจโลก และ การเมืองในต่างประเทศน่าจะเป็นกลางกับตลาดหุ้นไทย เพราะในขณะที่การเปลี่ยนตัวผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค Democrat เป็นนาง Kamala Harris ทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะเห็น ‘Trump 2.0’ หรือการที่นาย Trump ชนะเลือกตั้งและก่อให้เกิดกระแสความกังวลเกี่ยวกับการใช้นโยบายกีดกันทางการค้า (protectionism) และ การตั้งกำแพงภาษีกับจีน แต่การที่จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse repo และ LPR อย่างเหนือความคาดหมายเมื่อวานนี้ น่าจะช่วยหักล้างความกังวลในจีนไปบ้าง

ปัจจัยที่สอง คือ มีประเด็นบวกมากขึ้นจากทางฝั่งในประเทศ โดยคาดว่าคณะรัฐมนตรีจะอนุมัติมาตรการขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน Thai ESG ในสัปดาห์นี้ ในขณะที่นายกฯ เศรษฐามีกำหนดแถลงใหญ่เกี่ยวกับมาตรการ digital wallet

 

 

ติดตามตัวเลข GDP 2Q67, PCE สหรัฐ และประเด็นข่าวในไทยเกี่ยวกับกองทุน ESG และมาตรการ
digital wallet

ปัจจัยสหรัฐ: นักลงทุนควรติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลกับตลาด อย่างเช่น i) GDP
2Q67 (advance reading) ในวันที่ 25 กรกฎาคม ซึ่ง consensus คาดว่าจะขยายตัว 1.9% QoQ annual rate จาก 1.4% ใน 1Q67 ii) core PCE เดือนมิถุนายนในวันที่ 26 กรกฎาคม ซึ่ง consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% YoY จาก 2.6% ในเดือนก่อนหน้า

ปัจจัยในประเทศ: ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เราคาดว่าในสัปดาห์นี้คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุน Thai ESG จาก 100,000 บาท เป็น 300,000 บาท และจะลดระยะเวลาการถือครองเหลือ 5 ปี นอกจากนี้ ในวันที่ 24 กรกฎาคม นายกฯ เศรษฐาฯ จะประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการของมาตรการ digital wallet ด้วย

Idea trade ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่หุ้นค้าปลีก โรงกลั่น รวมทั้งหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

เนื่องจากเรามองว่า SET Index จะฟื้นตัวได้บ้างในสัปดาห์นี้ เราแนะนำให้นักลงทุนเข้าลงทุนในธีมดังต่อไปนี้ i) หุ้นกลุ่มค้าปลีกที่น่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการ digital wallet (CPALL*, CPAXT*)  ii) หุ้นโรงกลั่นที่น่าจะมีแรงหนุนจากการเก็งกำไร traditional energy firms หาก Donald Trump ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งช่วงฤดูขับรถของสหรัฐ (TOP*, SPRC*) และ  iii) หุ้นอาหารและเครื่องดื่มที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง (CPF*, OSP*, ICHI*)