วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Up จากนักลงทุนคลายความกังวลการเมืองภายในประเทศ โดยการจัดตั้ง ครม. ใหม่ คาดจะเสร็จภายในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดในงานการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล
คาดจะมีสัญญาณบ่งชี้ทิศทาง อัตาดอกเบี้ยสหรัฐ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และพลังงาน มีแรงขายในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,341.03 จุด +3.20 จุด +0.24% มูลค่าการซื้อขาย 38,464.07 ลบ. Program Trading -618.28 ลบ. ต่างชาติ -849.47 ลบ. TFEX -3,533 สัญญา ตราสารหนี้ -1,034.84 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ +1.5% ปิดที่ 73.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะกระตุ้นกิจกรรมทางเศษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
+ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.สหรัฐต่อสายตรงถึงนายกฯอิสราเอลเพื่อเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน
+ ก.พาณิชย์เปิดเผยในการเปิดงานเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทยด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ว่ารัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นกลไกหลักในการช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ
+ ศูนย์วิจัยธนาคารพาณิชย์ประเมินว่าแม้กนง.จะคงดอกเบี้ย แต่เริ่มเห็นสัญญาณการลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยคาดจะเริ่มลดครั้งแรกในไตรมาส 4 หลังเศรษฐกิจไทยยังเปราะบาง
+ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ Vision for Thailand กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหาและ มีโอกาสตกต่ำลงอีกจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตและแก้ไขปัญหาในหลายด้านที่ยังมีอยู่
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 177.71 จุด หรือ -0.43% ถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง
- รมว.กลาโหมอิสราเอลประกาศว่ากองกำลังของกลุ่มฮามาส ในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา "พ่ายแพ้" แล้ว พร้อมส่งสัญญาณเปลี่ยนเป้าหมายไปสู้รบกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอนทางตอนเหนือของอิสราเอล
- ยูเครนบุกถล่มกรุงมอสโกด้วยโดรนอย่างน้อย 11 ลำแต่ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศรัสเซียสอยร่วงหมด รัสเซียชี้ว่าเป็น การโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มขึ้นเมื่อเดือนก.พ. 2565
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนจากระดับ 54.3 ในเดือนก.ค.
-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล 2Q67 มีค่าดัชนีระดับ 39.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1Q67 ค่าดัชนีต่ำกว่า 50.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในเกณฑ์ต่ำ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัวตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธาน เฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ Rebound พยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,330-1,345 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• สินค้าส่งออกเดือน มิ.ย. ที่เติบโตดี : STA NER TRUBB TEGH ITC AAI
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM มีผล 2 ก.ย.
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
หุ้นรายงานพิเศษ
COCOCO "ซื้อ" ราคาเหมาะสม Bloomberg consensus 15.30 บาท
"กำไรสุทธิ 2Q67 +12%QoQ และ +73%YoY"
•งวด 2Q67 กำไรสุทธิ 227 ลบ. +12%QoQ +73%YoY มีรายได้จากการขาย 1,571 ลบ. +14%QoQ +41%YoY แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักจากการขายน้ำมะพร้าว 56% และกะทิ 36% เติบโตจากการขายน้ำมะพร้าว +40%QoQ +84%YoY เนื่องจากผ่าน ช่วง Low season ใน Q1 และการเติบโตของตลาดน้ำมะพร้าวในต่างประเทศ อาทิ ประเทศจีนและสหรัฐ (สัดส่วน 89% ของรายได้จากการขาย) การควบคุมต้นทุน การผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีอัตรากาไรขั้นต้นเท่ากับ 28% เพิ่มขึ้นจาก 27% ในช่วง 1Q67 และ 26% ในช่วง 2Q66 อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร +13%QoQ +18%YoY จากการออกงานแสดงสินค้ามากขึ้ ส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 14% เพิ่มขึ้นจาก 11% ในช่วง 2Q66 แต่ลดลงเล็กน้อยจาก 15% ในช่วง 1Q67 กำไรสุทธิ 1H67 เท่ากับ 431 ลบ. +118%YoY
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2Q67 จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดน้ำมะพร้าว สอดคล้องกับกำลังการผลิตของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจาก 24,000 ตันในช่วง 2Q66 เป็น 65,000 ตัน ขณะที่การขายหุ้น จัสท์ไลค์ แอนด์ มอร์ ช่วยลดภาระในการรับรู้ผลขาดทุน โดย Bloomberg Concensus คาดกำไรปี 2024 ราว 933 ลบ. +73%YoY กำไรในช่วง 1H67 คิดเป็น 46% ของ ประมาณการทั้งปี ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น +49%YTD มี P/E 22.4X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 35.8X ราคาเหมาะสม Consensus 15.30 บาท Upside ราว 30% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) PR9 (Bloomberg Consensus 22.00 บาท)ต่างชาติเข้ารักษาเพียบ เตรียมเปิด "International Customer Center" รองรับผู้ป่วย เดือนกันยายน 2567 คาดปีนี้ดันสัดส่วนแตะ 16-17% จากไตรมาส 2/2567 ที่ 15% แย้มลูกค้าอาหรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เผยไตรมาส 3/2567 ไฮซีซันธุรกิจ ผู้ใช้บริการเพิ่ม ลุยขยายบริการเปิดศูนย์สมรรถภาพทางเพศชาย ผลักดันบริการผ่าตัดเปลี่ยนไต สิ้นปีแตะ 100 ราย ล่าสุดศูนย์กระดูกและข้อได้ คว้ารางวัลโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ จากนิตยสาร "Newsweek" (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PTG (Bloomberg Consensus 10.40 บาท)ปรับเพิ่มยอดขายน้ำมันปีนี้เพิ่มจาก 10-12% เป็น 10-15% ชูครึ่งหลังผลงานเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจทั้ง Oil และ Non-Oil จากการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชน-การท่องเที่ยว เดินหน้าลงทุนปีนี้ 4,000-5,000 ล้านบาท ขยายปั๊ม และ Touchpoint ลุยธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SAT (Bloomberg Consensus 13.00 บาท)แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2567 ยังเติบโต เนื่องจากได้รับออเดอร์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น รวมถึงลูกค้า EV จีนหนุน พร้อมทั้งคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังจากยอดผลิตรถยนต์ในครึ่งปีแรกชะลอตัว ลุยขยายฐานธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์-ผลิต และจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร ต่อยอดแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SAFE (Bloomberg Consensus 21.50 บาท) มั่นใจปีนี้รายได้เติบโต 20% เชื่อ 5 เดือนจากนี้จะมีรายได้เพิ่มอีกจากเครื่องมือใหม่ PGT [A] Seq คัดกรองตัวอ่อนเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ติดสูง เตรียมเปิดให้บริการผ่าน NGG กันยายนนี้ เดินหน้า M&A ต่อเนื่อง คาดปลายปีได้ข้อสรุป ชี้การผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะทำให้ยอดพุ่ง ลูกค้าจีนเข้าใช้เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)