วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี AMATA ปรับเป้ายอดขายที่ดินขึ้น
AMATA ปรับเป้ายอดขายที่ดินเป็น 2,500-2,600+ ไร่ในปี FY24 สนับสนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งจากผู้ผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์และชิ้นส่วนรถยนต์สำหรับที่ดินนิคมฯ ในประเทศไทยและเวียดนาม
บริษัทตั้งเป้าขึ้นราคาขายอีก 5-10% ในปีนี้ เรายังคงประมาณการกำไรปี FY24F เนื่องจากเราใช้สมมติฐานยอดโอนที่ดินสูงอยู่แล้ว เราคาดกำไรจะเติบโตอย่างมากใน 2H และเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาหุ้นในระยะสั้น คงคำแนะนำ ซื้อ
ปรับเป้ายอดขายที่ดินเป็น 2,500-2,600+ ไร่ และปรับราคาขายขึ้น
ซึ่งจะนับเป็นสถิติสูงสุดใหม่สำหรับยอดขายที่ดินตั้งแต่ปี 2013 เป้ายอดขายใหม่ประกอบด้วย 2,000+ ไร่ในประเทศไทย และ 500-600 ไร่ในเวียดนาม เทียบกับเป้ายอดขายก่อนหน้านี้ที่ 2,200 ไร่ (รวมลูกค้ารายใหญ่) สนับสนุนจากการขายที่ดินผืนใหญ่ให้ลูกค้ากลุ่มอิเลคทรอนิกส์ (ลูกค้าไต้หวัน) และชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย บริษัทขายที่ดินได้ 57 ไร่ในเวียดนามใน 1H และมีลูกค้าในมืออีก 250-375 ไร่ ซึ่งคิดเป็น
50-85% ของเป้าปี FY24 โดยลูกค้ามาจากอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ หุ่นยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง บริษัทวางแผนที่จะปรับขึ้นราคาขาย 5-10% ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นในอนาคต เป้ายอดขายใหม่ของบริษัทสูงกว่าประมาณการของเราที่ 1,863 ไร่ปีนี้ และเราจะปรับสมมติฐานขึ้น
กำไรเติบโตแข็งแกร่งใน 2H24 และมีอัพไซด์กำไรปี FY25F
อย่างไรก็ตาม เรายังคงประมาณการกำไรธุรกิจหลักปี FY24F ที่ 2.4 พันล้านบาท (718 ล้านบาทใน 1H) เนื่องจากเราคาดยอดโอนที่แข็งแกร่งใน 2H (1,096 ไร่ เทียบกับ 314 ไร่ใน 1H) จะช่วยชดเชยกำไรที่ลดลงจากธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งส่วนต่างลดลงระหว่างค่า Ft และต้นทุนก๊าซธรรมชาติ (Fig. 6) AMATA คาดจะโอน Backlog มูลค่า 1.8 พันล้านบาทในเวียดนามในปีหน้า ซึ่งจะทำให้กำไรปี FY25F มีอัพไซด์จากประมาณการของเรา 15-20% บริษัทมี Backlog 1.69 หมื่นล้านบาท (ประเทศไทย 1.51 หมื่นล้านบาท และเวียดนาม 1.8 พันล้านบาท) ณ วันที่ 30 มิถุนายน
คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 29 บาท
ในระยะสั้นราคาหุ้นจะได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายและยอดโอนที่ดินที่แข็งแกร่ง รวมถึงการปรับขึ้นราคาขาย รัฐบาลใหม่จะยังคงสนับสนุน FDI ในประเทศไทยต่อไป และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกและสงครามการค้าจะยังคงผลักดันผู้ผลิตให้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศในกลุ่ม ASEAN