วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BCPG ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจากการรวมโครงการใหม่ๆ
เรามีมุมมองบวกจาก BCPG Opportunity Day เมื่อวานนี้ จากความคืบหน้าในโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่และมีแหล่งเงินทุนรองรับเพียงพอรวมถึงสำหรับการลงทุนในอนาคต เราคงคำแนะนำ "Trading Buy" สำหรับ BCPG
โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.3 บาท (จาก 5.9 บาท) ซึ่งสะท้อนถึงการรวมโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่เข้ามา อย่างไรก็ตาม เราคาดอาจมีการลดลงของกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ถึงครึ่งแรกของปี 2025 เนื่องจากวันที่คาดว่าจะเริ่มการดำเนินการเชิงพาณิชย์ (SCOD) สำหรับโครงการส่วนใหญ่คือครึ่งหลังของปี 2025 ดังนั้น อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) จะยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในโครงการ Monsoon และอีก 2 โครงการโครงการ
Monsoon ได้มีการติดตั้งกังหันลมจำนวน 94 จากทั้งหมด 133 ตัว เพิ่มขึ้นจาก 89 ตัวจาก Aug-24 เราคาดว่าจะเริ่มการทดสอบและดำเนินการในครึ่งแรกของปี 2025 โดยมีเป้าหมาย SCOD ในครึ่งหลังของปี 2025 นอกจากนี้ การก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มในไต้หวันคาดว่าจะมีความคืบหน้าได้ 30% ภายในสิ้นปี 2024 และมีเป้าหมาย SCOD ในครึ่งหลังของปี 2025 ส่วนที่ Nabas 2 กังหันลมสามตัวแรกเริ่มผลิตไฟแล้วแต่กังหันลม 3 ตัวที่เหลืออาจมีการล่าช้าเล็กน้อย โดยมีเป้าหมาย SCOD ในปี 2026
แหล่งเงินทุนที่มั่นคงสำหรับการลงทุนในอนาคต
บริษัทได้ตั้งงบประมาณ 50,000 ล้านบาทสำหรับการลงทุนในปี 2025-2030 ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากกำไร 2 พันกว่าล้านบาทจากการขายสินทรัพย์โซลาร์ในญี่ปุ่นและเงินปันผลจากการรีไฟแนนซ์ที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา (70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ใน 2Q24 ขณะที่เราคาดว่าบริษัทจะมีการขายสินทรัพย์เพิ่มเติมอีกรวมถึงมีศักยภาพในการกู้ยืมมากขึ้น (อัตราส่วน Net D/E ล่าสุดอยู่ที่ 0.7 เท่า) บริษัทกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในประเทศไทย ลาว ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
คงประมาณการกำไรและ Trading Buy ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 7.3 บาท
ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 7.3 บาทจาก 5.9 บาท ได้มาจากวิธี DCF ซึ่งมีสมมุติฐาน beta 1.2 risk free rate ที่ 2.5% และ market risk premium ที่ 8% โดยมีการรวมมูลค่าจากโครงการ Monsoon, 50% ของ Nabas 2 และ 50% ของโซลาร์ฟาร์มในไต้หวันมูลค่าปัจจุบันถือว่ามีความเหมาะสมสะท้อนถึง ROE ที่ลดลง