วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BDMS แนวโน้ม 3Q24F จะทำสถิติสูงสุดใหม่ และมี upside
เรามีมุมมอง Slightly positive ต่อ BDMS เนื่องจาก 1) คาด 3Q24F ทำสถิติใหม่ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ มีปัจจัยบวกจากการใช้บริการเพิ่มขึ้น และผลบวกอัตราภาษีลดลง
2) การเปิดศูนย์มะเร็งรังสี จ.ภูเก็ต จะช่วยเพิ่มศักยภาพรักษามะเร็งครบวงจรให้กับเครือข่าย รพ.ภาคใต้ มีโอกาสขยายตลาดลูกค้าใหม่ และ 3) กำไรสุทธิปี 24F-26F มี upside 1-2% หลังปรับอัตราภาษีจาก 20% เหลือ 18-19% นอกจากนี้ราคาหุ้น BDMS (+8%QTD) ยัง laggard กว่า BH (+10%QTD) และซื้อขายเทียบเท่า Forward PE -1.0SD มองเป็นโอกาสลงทุน BDMS (Buy TP25F 38 บาท) และเลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่ม รพ.
ประเด็นสำคัญ
1. เดือน ก.ค.-ส.ค.24 รายได้รักษาพยาบาลเติบโตราว 9-10%y-y มีปัจจัยผลักดันจากการใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้ง OPD และ IPD โดยกลุ่ม IPD มีแนวโน้มเติบโตกว่ากลุ่ม OPD จากอานิสงส์โรคระบาดช่วงฤดูฝน เช่น โรคทางเดินหายใจ (ไข้หวัดใหญ่, โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ RSV) และโรคไข้เลือดออก
2. ปลาย 3Q24-ต้น 4Q24 จะเปิดศูนย์ภูเก็ตมะเร็งรังสี รพ.สิริโรจน์ เพื่อให้บริการรักษามะเร็งครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกสิทธิการรักษา
3. การลงทุนโครงการ IT บริการทางการแพทย์ และการลดพลังงาน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายภาษีช่วง 3 ปีข้างหน้า (2024F-2026F) ผู้บริหารประเมินจากยอดเงินลงทุนรวม 1,100 ลบ. จะช่วยลดค่าใช้จ่ายภาษีราว 460 ลบ. หรือมีอัตราภาษีลดลงจาก 20% เหลือ 18-19% และยังมีโอกาสได้สิทธิประโยช์จากลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามีมุมมอง Slightly positive ต่อ BDMS เนื่องจาก
1) คาดว่ารายได้ 3Q24F จะทำสถิติสูงสุดใหม่จากการใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้ง OPD และ IPD
2) การเปิดศูนย์มะเร็งรังสี ในจังหวัดภูเก็ต จะช่วยเพิ่มศักยภาพรักษามะเร็งครบวงจรให้กับเครือข่าย รพ.ภาคใต้ 7 แห่ง (สัดส่วนรายได้ 10% ของรายได้ รพ.) ในจำนวนนี้มีรพ.ที่เป็น Center of Excellence 2 แห่ง ได้แก่ รพ.กรุงเทพ ภูเก็ต, รพ.กรุงเทพ หาดใหญ่ ทำให้มีโอกาสขยายตลาดลูกค้าใหม่ และมีการใช้บริการเพิ่มขึ้นในระยะยาว
3) ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024F-26F ของเราจะมี upside เล็กน้อย 1-2% จากการปรับอัตราภาษีลงจาก 20% เป็น 18-19% จากผลบวกสิทธิประโยชน์ภาษี BOI
- แนวโน้ม 3Q24F คาดกำไรสุทธิ 4,400 ลบ (+13%y-y +32%q-q) ดีกว่าที่ประเมินเดิม 2% มีปัจจัยบวก 1) รายได้ รพ (+11%y-y +14%q-q) เติบโตตามการใช้บริการเพิ่มขึ้น 2) คาดมี Economies of scale ของการใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้ง 3) คาดอัตราภาษีลดลงจากสิทธิประโยชน์ BOI หากกำไรสุทธิ 3Q24F เป็นไปตามเราคาด จะทำให้กำไรสุทธิ 9M24F คิดเป็น 75% ของกำไรสุทธิปี 24F คาด 15,790 ลบ. (+10%y-y)
- คงแนะนำ Buy สำหรับ BDMS (TP25F ที่ 38 บาท) วิธี DCF WACC 6.7% L-T growth 3% เลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มการแพทย์ เนื่องจาก 1) ราคาหุ้น laggard กว่า BH 2) คาด 3Q24F เป็นไตรมาสดีสุดของปี 3) กำไรสุทธิปี 24F-26F มี upside จากอัตราภาษีลดลงจากสิทธิประโยชน์ BOI และ 4) ได้เปรียบการแข่งขันจาก Capacity และขยายศักยภาพรักษาโรคของ รพ.ต่างจังหวัด รองรับการเติบโตระยะยาว นอกจากนี้ราคาหุ้น BDMS ซื้อขายเทียบเท่า Forward PE ราว -1.0SD