"วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

"วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้รับ Sentiment เชิงบวกจากสหรัฐเผย ตัวเลขเงินเฟ้อครั้งล่าสุด ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยราว 0.25-0.50% ในการประชุมสัปดาห์นี้

รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามความกังวลเรื่องน้ำท่วมภาคเหนือที่รุนแรงขึ้น เป็นปัจจัยกดดันดัชนี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,424.39 จุด +2.81 จุด +0.20% มูลค่าการซื้อขาย 53,777.6 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -3.25 จุด -0.23%) Program Trading +2,298.9 ลบ. ต่างชาติ +1,760.7 ลบ. TFEX -5,004 สัญญา ตราสารหนี้ +1,718.3 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 297.01 จุด หรือ +0.72% เนื่องจากนักลงทุน มีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้หุ้นขนาดเล็กที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นอย่างมาก
+ รมว.กระทรวงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และตัวเก็งในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) แสดงความเห็นว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้เนื่องจากเศรษฐกิจกาลังใกล้จะฟื้นตัวจากภาวะชะงักงัน
+ รายงานผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ขยายตัว 4.5%YoY ในเดือนส.ค.
+ รมว.คมนาคมสั่งการให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทเร่งดำเนินการฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมในจังหวัดเชียงรายหลังได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยรุนแรง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ    

ปัจจัยลบ   

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 32 เซนต์ หรือ -0.5% ปิดที่ 68.65 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการหลังได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฟรานซีน และ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
 

- ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับนาโตร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งหลังประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินเปิดเผยว่าชาติตะวันตกน่าจะสู้กับรัสเซียโดยตรงหากยอมให้ยูเครนโจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ผลิตขึ้นในประเทศตะวันตก ส่วนยูเครนกล่าวโทษรัสเซียใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดใส่เรือบรรทุกธัญพืชของพลเรือนในทะเลดำบริเวณน่านน้ำใกล้กับประเทศโรมาเนียซึ่งเป็นสมาชิก NATO
- จีนออกแถลงการณ์ว่าไม่พอใจอย่างยิ่งและขอคัดค้านการที่สหรัฐฯใช้มาตรา 301 ในการขึ้นภาษีสินค้าจีนบางรายการ
- การผลิตเหล็กของจีนลดลงมากกว่า 10%YoY ในเดือนส.ค. 2567 เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล็กเผชิญกับราคาที่ระดับต่ำ และความต้องการที่ลดลงอย่างรุนแรง
- ส.อ.ท.ประเมินน้ำท่วมภาคเหนือตอนบนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปีส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 2.7 หมื่นล้านบาท กำชับให้สมาชิกกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเร่งเพิ่มกำลังผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ
-กระทรวงการคลังประกาศเลื่อนการเปิดลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตสำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนผ่าน 3 ธนาคารรัฐในวันที่ 16 ก.ย.ออกไปก่อนเนื่องจากต้องการรอให้กระบวนการจ่ายเงินในเฟสแรกเสร็จสิ้นก่อน และเลื่อนประกาศผลลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปทางรัฐวันที่ 22 ก.ย.ออกไปไม่มีกำหนด

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยลงทุนมีความหวังมากขึ้นเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,420-1,430 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
• ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ค. เติบโต : STA NER CPF GFPT AAI ITC
• หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐบาลใหม่ : CK STEC SEAFCO BJC CPALL CPAXT
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC

หุ้นรายงานพิเศษ  

BCH "ซื้อ" Bloomberg Consensus 21.00 บาท Upside 21%
"มุมมองบวกต่อแนวโน้ม 2H67 และคาด 3Q67 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้"

\"วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

•งวด 2Q67 มีกำไร 277 ลบ. -3%YoY -13%QoQ และต่ำกว่าตลาดคาด 12% ขณะที่ รายได้จากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 2,879 ลบ. ทรงตัว YoY และ QoQ โดยหลักมาจากการกลับรายการรายรับกลุ่มโรคซับซ้อนของประกันสังคมของช่วงพ.ย.-ธ.ค. 66 จำนวน 80 ลบ. (เป็นการหักออกจากรายได้) หากพิจารณาเฉพาะรายได้และกำไรปกติจะอยู่ที่ 2,960 ลบ. +3%YoY +3%QoQ และ 337 ลบ. +19%YoY +6%QoQ ตามลำดับ เติบโตจากรายได้ผู้ป่วย OPD (สัดส่วน 38%) +12%YoY ช่วยชดเชยรายได้ IPD (สัดส่วน 29%) -13%YoY จากกลุ่มผู้ป่วยชาวคูเวตที่หายไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐฯ ส่วนกลุ่มประกันสังคม (สัดส่วน 33%) ทรงตัว YoY ส่วน %EBITDA ทรงตัวที่ระดับ 21.6% (2Q66 = 21.7%, 1Q67 = 23.9%) ทั้งนี้งวด 1H67 มีกำไร 596 ลบ. +11%YoY

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้ม 2H67 และคาด 3Q67 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ จากการเข้าสู่ High Season ที่เป็นฤดูฝน ประกอบกับจะมีบันทึกรายได้จากภาระเสี่ยง 26 โรคเรื้อรังที่จะบันทึกในช่วง 3Q67 ราว 60-90 ลบ. และปรับค่าบริการเพิ่มขึ้นราว 5% (ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 67) ช่วยชดเชยรายได้จากโรคซับซ้อนใน 4Q67 ที่คาดจะปรับลงจากอัตราที่ 12,000 บาท/RW เหลือ 7,200 บาท/RW ซึ่งคาดจะกระทบต่อรายได้ราว 2-3% โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 และราคาเหมาะสมราว 1,548 ลบ. +10%YoY (1H67 คิดเป็น 39%) และ 21.00 บาท Upside 21% นอกจากนี้ ปัจจัยบวกด้านราคาระยะสั้นมาจาก ESG Rating ที่ AA เป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์ แนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) TRP (ราคาเหมาะสม 9.75 บาท)ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว มั่นใจงบไตรมาส 3/67 โต หลังขยายบริการทางการแพทย์-ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งเกี่ยวกับศัลยกรรม และไม่ใช่ศัลยกรรม ล่าสุด “รพ. ธีรพร” ก่อสร้างเสร็จ 100% พร้อมเปิดบริการไตรมาส 1/68 ย้ำปีนี้รายได้รวมทรงตัว หวนโตปี 68 ไม่ต่ำ 10% (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) NER (Bloomberg Consensus 6.40 บาท) ลุ้นได้รับออเดอร์ยาง EUDR เพิ่ม ตั้งเป้าปริมาณขายปีนี้ราว 4.5 หมื่นตัน เพิ่มเป็น 1 แสนตัน ในปี 2568 ขณะที่เตรียมส่งออเดอร์ยาง EUDR ล็อตแรก 2-3 พันตันต่อเดือน ให้ลูกค้าจีน ภายในเดือนกันยายนนี้ แย้มอยู่ระหว่างดีลลูกค้าซัพพลายเออร์รายใหญ่ คาดสรุปได้ภายในปีนี้ มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตต่อ จับตารายได้ปีนี้โตเกินเป้า รับอานิสงส์จากราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SPA (ราคาเหมาะสม 8.90 บาท)เข้า SET ตอกย้ำศักยภาพด้านธุรกิจ พร้อมรับมือไฮซีซั่นไตรมาส 4 ชูสาขา Flagship ใจกลางเมือง เดินหน้าขยายสาขารุกโรงแรม 4-5 ดาว มั่นใจปีนี้ยอดขายนิวไฮ 1,700 ล้านบาท ด้านสาขา Flagship ที่ Grand Center Point Lumphini เปิดครึ่งแรกปีหน้า งบลงทุนอยู่ที่ราว 100 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SK (Bloomberg Consensus - บาท) รุกประมูลงานปลายเดือนนี้ 200 ล้านบาท เติมแบ็กล็อกที่มีอยู่ 415 ล้านบาท แย้มทิศทางมาร์จิ้นดีต่อเนื่อง เตรียมเข้าพื้นที่ส่งมอบงานปลายปีอีกราว 160 ล้านบาท ปักเป้ากวาดยอดขายทั้งปีที่ 550-600 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)