เวสต์เทกซัส 68.18 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 71.98 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (30 ก.ย. 67) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์ในตะวันออกกลางยกระดับขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(+) ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น หลังความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอเลาะห์มีความตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังอิสราเอลยังคงเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทางการทหารที่สำคัญ รวมถึงสังหารผู้นำคนสำคัญของกลุ่มซึ่งรวมถึงผู้นำสูงสุดของกลุ่มด้วยเช่นกัน แม้ชาติตะวันตกจะเรียกร้องให้มีการหยุดยิงลงชั่วคราว
(+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อันได้แก่ ดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 2.3% เช่นเดียวกับตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.2% ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 0.3% จากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอดังกล่าว ส่งผลให้ล่าสุดผลสำรวจ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 53.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในเดือน พ.ย. 67
(-) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากภาคเศรษฐกิจของจีน ภายหลังตลาดยังคงไม่เชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งออกมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งในฝั่งของนโยบายการเงินและการคลังจะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจจีนพลิกฟื้นกลับมาเติบโตที่ระดับเป้าหมายที่ 5%
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของอินเดียอยู่ในระดับต่ำจากฤดูมรสุม อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่โรงกลั่นของไต้หวันหยุดซ่อมบำรุงกะทันหัน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขสต็อกน้ำมันดีเซลของสิงคโปร์ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ย. 67 ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 9.81 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ความต้องใช้น้ำมันดีเซลของอินเดียยังคงได้รับแรงกดดันในช่วงฤดูมรสุม