วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ รับมือความผันผวนเลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อย

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ รับมือความผันผวนเลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อย

มีแรงซื้อทอง และสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสถานการณ์ตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น ราคาน้ำมันและสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตร ทองคำ และดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากอิหร่านโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีในเลบานอน

นักลงทุนรอประเมินความรุนแรงของสถานการณ์ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งต่อการขนส่งน้ำมันและสินค้า และผลกระทบด้านโลจิสติกส์อื่น // ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ผสมผสาน โดยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ส.ค. เพิ่มขึ้น 329,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.04 ล้านตำแหน่ง (จากระดับ ก.ค.ที่ 7.71 ล้านตำแหน่ง และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.66 ล้านตำแหน่ง) ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ก.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 (จาก ส.ค.ที่ 47.9) หดตัวติดต่อกันเดือนที่ 3

มีมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังต่อการลงทุนต.ค. ตลาดเริ่มต้นไตรมาส 4/67 ได้ค่อนข้างดี จากความคาดหวังแรงซื้อจากกองทุนวายุภักษ์ เรายังคงมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทยจากแรงผลักดันทางเศรษฐกิจที่ยังคงดำเนินต่อไป แต่เราคาดว่าต.ค.67 ตลาดมีโอกาสผันผวนจาก 1) นักลงทุนต่างชาติอาจทำกำไรจากหุ้นขนาดใหญ่หลังจากได้รับผลตอบแทนรวมกว่า 20% (ดัชนี SET เพิ่มขึ้น 13.7% พร้อมกับการแข็งค่าของค่าเงินบาทที่ 10% นับจาก 6 ส.ค.) 2) หุ้นส่วนใหญ่สะท้อนข่าวดีจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว และ 3) ผลประกอบการกลุ่มพลังงานและเกี่ยวข้องอาจชะลอตัวจาก ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงในไตรมาส 3/67 


 

มีโอกาสที่เงินจะหมุนมายังกลุ่มที่ยังปรับขึ้นน้อย (Laggards) เราคาดว่าตลาดจะหมุนกลุ่ม (rotation) ไปสู่กลุ่มที่ราคายังตามหลังและมีแรงผลักดันจากกำไรในอนาคตที่แข็งแกร่ง กลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, อาหาร, และอิเล็กทรอนิกส์เป็นเป้าหมายที่น่าสนใจในการเข้าซื้อ ด้วยการที่อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB อาจแข็งค่ามากเกินไปและธนาคารแห่งประเทศไทยส่งสัญญาณแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB มีแนวโน้มอ่อนค่าหลังลงมาทดสอบ 32-32.5 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งจะสนับสนุนการหมุนเวียนไปสู่กลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, อาหาร, และอิเล็กทรอนิกส์

ภาพรวมกลยุทธ์ “เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก สะสมหุ้นที่เข้าสู่ช่วง high season อย่างกลุ่มท่องเที่ยว การแพทย์ อาหารสัตว์เลี้ยงเราชอบ AOT, ERW, CENTEL, SPA, VRANDA, BCH, BDMS, ITC // หุ้นได้ประโยชน์จากจีนและ DR หุ้นจีน อาจชะลอจากการเข้าสู่ช่วงหยุดยาว 1-7 ต.ค. // หุ้นได้แประโยชน์ Data center: WHA, INSET, ITEL, MFEC, AIT, ICN

แนวรับ: 1,425-1,435 / แนวต้าน : 1,465-1,490 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

•    TKN* (12) : ค่าเงินบาทที่มีโอกาสกลับมาอ่อนค่า รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่น่าจะเพิ่มกำลังซื้อ คาดเป็นปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัว ตัดขาดทุน 9.9 บาท
•    TNP* (4.50) : ภาวะน้ำท่วมทำให้มีการปิด 4 สาขา แต่เป็นระยะเพียง 3-7 วัน ผลประทบค่อนข้างจำกัด ขณะที่ได้แรงหนุนบริโภคจากมาตรการรัฐ  ตัดขาดทุน 3.50 บาท
•    VRANDA* (7) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ฟื้นตัวจากธุรกิจโรงแรม ขณะไตรมาส 4 มีแรงหนุนจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ ตัดขาดทุน 5.20 บาท  
•    FLOYD* (1) : ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดฟื้นตัวต่อเนื่อง ราคาปัจจุบันต่ำมูลค่าทางบัญชีที่ 1.05 บาท  ตัดขาดทุน 0.75 บาท 

 

 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    พาวเวล ชี้ชัด เฟดชะลอจังหวะปรับดอกเบี้ย มั่นใจเศรษฐกิจแกร่ง
-    ดัชนี VIX พุ่งทะลุ 20 จุด นักลงทุนแพนิค กังวลอิหร่านเปิดศึกอิสราเอล
-    “เงินเฟ้อยูโรโซน” ลดเหลือ 1.8% ในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าเป้า ECB
-    ครม. อนุมัติแผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบ 68 ก่อหนี้ใหม่ 1.2 ล้านลบ.
-    "จุลพันธ์" เตรียมถก Entertainment Complex นัดแรกวันนี้
-    รัฐบาล ปรับเกณฑ์เยียวยาน้ำท่วม 9,000 บ.ทุกครัวเรือน ชงครม.สัปดาห์หน้า
-    ไทยเบฟ ปัดฝุ่นแผนส่ง BeerCo ขาย IPO เข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์กลางปี 68 
-    กทม. เตรียมจ่ายหนี้สายสีเขียวให้ BTS ก้อนแรก ภายใน 180 วัน
-    ตลท.เผย “หุ้น CPAXT” เริ่มซื้อขาย 3 ต.ค.67 วันแรกไม่กำหนดซิลลิ่ง-ฟลอร์
-    ITC แนะนำ “ซื้อ” เป้า 28.40 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

3 ต.ค. – US ISM Services PMI (Sep)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ รับมือความผันผวนเลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อย วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ รับมือความผันผวนเลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อย