วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ภาคบริการเดือน ก.ย. ของ US EU
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,444/1,438 จุด แนวต้าน 1,460/1,464 จุด ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,274-1,696 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,489 จุด (EMA 50 เดือน)
ส่วนในระยะสั้น ยังคงอยู่ในทิศทาง Zig-Zag Up โดยวานนี้ แท่งเทียน Candlestick ที่เป็น Lower High และ Lower Low สะท้อนตลาดยังคงอยู่ในช่วงสะสมพลังเพื่อปรับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 1,471.69 จุด โดยสัญญาณขายรายวันจะเกิดขึ้นหากหลุดแนวรับ 1,444 จุด ในทางตรงกันข้ามจะเกิดแรงซื้อใหม่ หากทะลุ 1,471.69 จุด แนะนำชะลอลงทุน จนกว่าจะเกิดสัญญาณซื้อรอบใหม่
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
Holiday: ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ หยุดเนื่องในวันชาติ
US Fed Comments: Fed Atlanta Bostic (Voter) จับตาการให้มุมมองต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป
เทศกาลกินเจ: ระหว่างวันที่ 3-11 ต.ค. เริ่มต้นเป็นวันแรก โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดเม็ดเงินสะพัด 4.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% YoY เนื่องจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น ขณะที่การบริโภคของคนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
+US: จับตารายงานภาคบริการเดือน ก.ย. หากออกมาดีกว่าคาด จะเป็นโมเมนตัมบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่อาจทำให้โอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 50 bps. ลดลงในการประชุมครั้งต่อไป โดย ISM คาดเพิ่มขึ้นเป็น 51.6 (Vs เดือน ส.ค. 51.5) แต่ S&P Global คาดลดลงเล็กน้อยเป็น 55.4 (Vs เดือน ส.ค. 55.7) ทำให้ Composite PMI เดือน ก.ย. คาดลดลงเล็กน้อยเป็น 54.4 (Vs เดือน ส.ค. 54.6)
-EU: HCOB คาดภาคบริการเดือน ก.ย. ลดลงแรงเป็น 50.5 (Vs เดือน ส.ค. 52.9) ส่งผลต่อ Composite PMI เดือน ก.ย. ลดลงเป็น 51.0 (Vs เดือน ส.ค. 51.0) ขณะที่เงินเฟ้อมีสัญญาณชะลอตัวอิง PPI เดือน ส.ค. คาดเติบโตลดลง +0.3% MoM, -2.4% YoY (Vs เดือน ก.ค. 0.8% MoM, -2.1% YoY) เพิ่มโอกาสให้ ECB ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป
US: รายงาน Factory Orders เดือน ส.ค. คาดเติบโตเพียง +0.1% MoM (Vs เดือน ก.ค. +5% MoM) ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 220k (Vs สัปดาห์ก่อหน้า +218k)
กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้: แนะนำ GPSC GUNKUL CPALL
Strategic daily picks
GPSC ปิด 48.00 บาท/แนวรับ 46.50 บาท แนวต้าน 51.50 บาท
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศรับซื้อ RE 2 ล็อตแรก 2,180 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบด้วยพลังงานลมไม่เกิน 600 MW และพลังงานแสงอาทิตย์ไม่เกิน 1,580 MW เรามองเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีโครงการประมูลค้างท่อที่ไม่ผ่านการคัดเลือกรอบ RE 1 ที่จะได้รับสิทธิและได้รับพิจารณาเป็นลำดับแรก อาทิ GPSC (ราว 300-400 MW) เป็นต้น
ทั้งนี้ KTX เลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มพลังงาน (โรงไฟฟ้า) และประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 53.70 บาท
GUNKUL ปิด 2.90 บาท/แนวรับ 2.80 บาท แนวต้าน 3.10 บาท
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศรับซื้อ RE 2 ล็อตแรก 2,180 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบด้วยพลังงานลมไม่เกิน 600 MW และพลังงานแสงอาทิตย์ไม่เกิน 1,580 MW เรามองเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีโครงการประมูลค้างท่อที่ไม่ผ่านการคัดเลือกรอบ RE 1 ที่จะได้รับสิทธิและได้รับพิจารณาเป็นลำดับแรก อาทิ GUNKUL (ราว 400 MW) เป็นต้น
ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 1.78 พันล้านบาท (+20.43% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 4.11 บาท
CPALL ปิด 65.25 บาท/แนวรับ 64.00 บาท แนวต้าน 67.75 บาท
บริษัทคาดแนวโน้มผลงาน 2H24 ปรับดีขึ้นกว่า 1H24 เพราะธุรกิจมีการทำตลาดลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มเติมผ่านการขยายสาขาต่อเนื่องในปี 2024 นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนกว่า 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ในการเปิดสาขาใหม่และพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ (ทั้งออนไลน์และออฟไลน์) ส่วนการทุ่มตลาดของสินค้าจีนที่เข้าไทยนั้น บริษัทประเมินว่าไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจ เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นกลุ่มอาหารและกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร
ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 62.17 บาท อิงวิธี Earnings Yield ด้วยอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 4.6%
