วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง US PPI เดือน ก.ย.

ส่วนในระยะสั้น ผลบวกจาก SET Index สามารถสร้าง New High ใหม่รอบปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 12 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2023 (ระดับสูงสุดเดิมอยู่ที่ 1,471.69 จุด ทำไว้เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2024) ถือว่าเป็นสัญญาณบวกต่อ แนวโน้มขาขึ้นของดัชนีฯ ในระยะยาว ซึ่งจะมีโอกาสไต่ขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบเป้าหมายแรก 1,489 จุด และ 1,494 จุด (ระดับ 1/3 ของกรอบใหญ่ 1,273-1,716 จุด) ตามลำดับ ส่วนแนวรับหลักอยู่ที่ 1,444 จุด กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ ซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว เพื่อไปรอขายแนวต้าน

ประเด็น Event สำคัญวันนี้ 

เทศกาลกินเจ: วันสุดท้ายของเทศกาลกินเจ เราคาดราคาหุ้นกลุ่มเนื้อสัตว์ ไก่ หมู จะกลับมาปรับตัวดีขึ้น 5-16% ในช่วงที่เหลือของ 4Q24E

US: 3Q24E Earnings Results โดย JP Morgan คาด EPS USD4.00 (Vs Previous USD4.33), Wells Fargo คาด EPS USD1.28 (Vs Previous USD1.48); Bank of New York Mellon คาด EPS USD1.38 (Vs Previous USD1.27)

US Fed Comments: จับตาสัญญาณดอกเบี้ยเฟดครั้งต่อไป: Fed Dallas Lorie Logan, Fed Chicago Austan Goolsbee (Non-Voter)

Holiday: ตลาดหุ้น HSKI หยุด เนื่องในวัน Chung Yueng Festival

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ

+US: รายงานดัชนีผู้ผลิตเดือน ก.ย. โดย Consensus คาดเติบโตในอัตราลดลง +0.1% MoM, +1.6% YoY (Vs เดือน ส.ค. +0.2% MoM, +1.7% YoY) และ Core PPI เดือน ก.ย. คาด +0.2% MoM, +2.7% YoY (Vs เดือน ส.ค. +0.3% MoM, +2.4% YoY) สะท้อนแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อในเดือน ต.ค. ปรับลดลง และเพิ่มโอกาสให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี

+US: รายงานดัชนีวัดวามเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ต.ค. โดย Consensus คาด Michigan Consumer Sentiment เดือน ต.ค. เบื้องต้น ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 70.8 (Vs เดือน ก.ย. 70.1) และมุมมองต่ออัตราเงินเฟ้อช่วง 12 เดือนข้างหน้า และ 5 ปีข้างหน้า คาดลดลงเล็กน้อยเป็น 2.6%/3.1% (Vs เดือน ก.ย. 2.7%/3.1%)

-China: รายงานดุลการค้าและอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย. (ประกาศวันอาทิตย์) โดย Consensus คาดดุลการค้าเกินดุลลดลงเป็น USD82bn. (Vs เดือน ส.ค. +USD91.02bn.) ส่งออกและนำเข้ากย.เติบโต 7% YoY/1% YoY (Vs เดือน ส.ค. 8.7% YoY/0.5% YoY) ส่วนเงินเฟ้อเดือน ก.ย. คาดเติบโตลดลงต่อเนื่องเป็น +0.2% MoM, +0.4% YoY (Vs เดือน ส.ค. +0.4% MoM, +0.6% YoY) สะท้อน Domestic Demand ลดลง และนำไปสู่ทางการจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เมื่อปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้: แนะนำ AAV BTG ADVANC

Strategic daily picks

AAV     ปิด 2.70 บาท/แนวรับ 2.58 บาท แนวต้าน 2.86 บาท

จากกระแสข่าวการควบรวกิจการระหว่างไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และไทยแอร์เอเชีย นั้น AAV (เจ้าของสายการบินไทยแอร์เอเชีย) ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะจากการพิจารณาและศึกษารายละเอียดธุรกิจแล้ว ทั้ง 2 บริษัท ไม่สามารถควบรวมกันได้ เนื่องจากได้ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC) และตารางบิน (Slot) ที่แตกต่างกัน สำหรับในปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีจำนวนเครื่องบินเพิ่มเป็น 60 ลำ ภายใน 4Q24 โดยให้บริการเส้นทางการบินในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 2.05 พันล้านบาท (+340.65% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 3.32 บาท

BTG     ปิด 22.60 บาท/แนวรับ 22.20 บาท แนวต้าน 23.70 บาท

บริษัทคงเป้าหมายปี 2024E คาดยอดขายโต 5-10% (1H24 โต 0%) GPM 13-15% (1H24 = 12.5%) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อยอดขาย 10-11% (1H24 =10.5%) งบลงทุน 4 พันล้านบาท (ใช้ไปแล้ว 50%) ขณะที่ใน 3Q24 KTX คาดอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรดีต่อเนื่อง QoQ ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 24.14 บาท อิงอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 4.1%

 

 

ADVANC    ปิด 272.00 บาท/แนวรับ 267.00 บาท แนวต้าน 280.00 บาท

ADVANC ผนึกกำลังกับ Bridge Alliance เพื่อเชื่อมต่อ AIS Open AI ระหว่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม Bridge Alliance’s API Exchange (BAEx) เพื่อให้บริการต่าง ๆ และครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากยิ่งขึ้น รวมถึงขยายศักยภาพการแข่งขันให้กับธุรกิจไทยในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 8.44 พันล้านบาท (+3.55% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 284.45 บาท