วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BEM ประมาณการ 3Q67F: ทำกำไรสูงสุดใหม่อีกหนึ่งไตรมาส
ในเดือนก.ย. 67 จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยลดลง MoM เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมของนักเรียนแต่ยังคงเพิ่มขึ้น 4% YoY และรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้า (farebox revenue) เพิ่มขึ้น 11.5% YoY เนื่องจากการเพิ่มค่าตั๋วโดยสารของ MRT ขึ้น 1-2 บาท/สถานี
ส่วนรายได้จากค่าโดยสารเฉลี่ยใน 3Q67 เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 16% QoQ ขณะที่ จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย และ farebox revenue ใน 9M67 เพิ่มขึ้น 10% และ 13% YoY ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ปริมาณรถและรายได้จากค่าผ่านทางยังทรงตัวในเดือนก.ย. 67 ที่ 1.1 ล้านคัน และ 25.5 ล้านบาทตามลำดับ โดยเท่ากับค่าเฉลี่ยใน 9M67
คาดกำไร 3Q67F เป็นจุดสูงสุดใหม่อีก
การที่ธุรกิจระบบรางดำเนินงานได้ดีใน 3Q67 เพราะเป็นช่วง high season เราคาดว่า BEM จะมีรายได้เติบโตที่ 4.4 พันล้านบาท (+5% YoY และ +9% YoY) อีกทั้ง BEM ยังน่าจะบันทึกเงินปันผลรับระหว่างกาลจาก Thai Tap Water (TTW.BK/TTW TB) มูลค่า 265 ล้านบาท ดังนั้น กำไร 3Q67F น่าจะอยู่ราว 1.055 พันล้านบาท (+9% YoY และ +5% QoQ) ส่วนกำไร 9M67F จะอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+11%YoY) คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 3.87 พันล้านบาท (+11% YoY)
คอยลุ้นโครงการทางด่วนยกระดับมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทอยู่
เมื่อเร็ว ๆ นี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ. หรือ EXAT) ได้เปิดเผย 3 โครงการรวมถึงโครงการทางด่วนระดับมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทที่จะลงนามในปี 2568 ทั้งนี้ BEM ยังคงเจรจาต่อรองกับกทพ.อยู่เพื่อแก้ไขระยะเวลาสัมปทานและรูปแบบส่วนแบ่งรายได้เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดของรัฐบาลในการลดราคาเฉลี่ยค่าผ่านทางอยู่ที่ 50 บาทต่อเที่ยวเดินทาง ส่วนความกังวลอีกอย่างหนึ่งคือนโยบายค่าตั๋วโดยสารเดินทางรถไฟฟ้าที่ 20 บาทตลอดสายโดยรัฐบาลจะซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าทั้งหมดและเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบสัญญา PPP gross cost อย่างไรก็ตาม เรามองว่า BEM ไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะรัฐบาลยืนยันว่าจะรักษาสัมปทานเดิมและชดเชยส่วนต่างราคาให้กับ BEM
Valuation & action
เราคงคำแนะนำซื้อ และราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 11.20 บาท มาจากธุรกิจหลักที่ 9.00 บาท (ใช้ WACC ที่
5.8% และ terminal growth ที่ 1%) อีก 0.80 บาทจากการลงทุนใน TTW และ CKP และอีก 1.40 บาทจาก
รถไฟฟ้าสายสีส้ม ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรปี 2567F-2568F ที่ 3.87 พันล้านบาท (+11% YoY) และ
4.4 พันล้านบาท (+13% YoY)
Risks
ความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ ๆ การแก้ไขสัญญาต่าง ๆ การปรับเปลี่ยนฎระเบียบต่าง ๆ ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทย