วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ KBANK กำไรหลักชะลอตัวและการปรับโครงสร้างสินเชื่อดีขึ้น
KBANK รายงานกำไร 3Q67 เป็นไปตามคาดอยู่ที่ 1.19 หมื่นล้านบาท (-5% QoQ แต่ +6% YoY) ส่วนกำไร 9M67 ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท (+15%) คิดเป็น 90% ของประมาณการเต็มปี นอกจากประมาณการกำไรเป็นไปตามคาดแล้ว
ผลขาดทุนสุทธิจากเบี้ยรับประกันภัย (insurance premium) ใน 3Q67 สูงกว่าคาดอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท (สูงกว่า 2Q67 ที่ 538 ล้านบาท) แต่ถูกชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายสำรอง ฯ ที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ กำไรลดลง QoQ หลัก ๆ เกิดจากการลดลงของ NIM 6bps และขาดทุนมากขึ้นจากเบี้ยประกันภัยสุทธิ ส่วนที่กำไรเพิ่ม YoY มาจาก credit cost ต่ำลงและรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 8% YoY
การล้างหนี้เสียออกจากงบดุลทำให้สินเชื่อลดลงในอัตราที่เร็วขึ้นพร้อมกับการลดลงของ NIM
สินเชื่อหดตัว 2% QoQ และ YTD หลัก ๆ เป็นเพราะการชำระคืนสินเชื่อจากธุรกิจขนาดใหญ่ การล้างงบดุล และการปรับโครงสร้างสินเชื่อที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้ และนโยบายการให้สินเชื่อแบบระมัดระวัง เมื่อมองไปข้างหน้า ธนาคารยังคงเน้นกลยุทธ์การให้สินเชื่อที่ระมัดระวัง ซึ่งจะส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่อทั้งปีต่ำกว่าเป้าหมายที่ 3-5% ในทางกลับกัน NIM ลดลงอย่างชัดเจนราว 6bps QoQ และ 15bps ลดลงจากจุดสูงสุดใน 4Q66
การปรับโครงสร้างสินเชื่อชี้ให้เห็นสัญณาณอ่อนตัวลงใน 3Q67
KBANK รายงาน NPL คงที่ QoQ และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% YoY ส่วน credit cost ใน 3Q67 ทรงตัวที่
190bps และใน 9M67 อยู่ที่ 188bps อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างสินเชื่อภายใต้โครงการ CDR แสดง
สัญญาณแย่ลงใน 3Q67 ราว 4% QoQ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อชั้นที่ 2 จากการที่ ธนาคารมุ่งมั่นที่จะล้างงบดุลให้เสร็จสิ้นภายในปี 2567 จึงน่าจะทำให้ credit cost ใน 4Q67 สูงขึ้นแต่ยังอยู่ในเป้าหมายระหว่าง 175-195bps ดังนั้น กรณีนี้จึงอนุมานได้ว่า credit cost ใน 4Q67 จะอยู่ราว 210bps
(+20bps QoQ)
คงคำแนะนำถือ โดยปรับไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2568F ที่ 162 บาท (จากเดิม 152 บาท)
แนวทางในการเร่งล้างงบดุลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้นตามฤดูกาลชี้เป็นนัยว่ากำไรสุทธิที่แท้จริง
ใน 4Q67F จะลดลง ขณะที่ ธนาคารได้ทำการขยายเวลาในการล้างหนี้เสียออกจากงบดุลไปเป็นปี 2568F
กรณีนี้เป็นการคงประมาณการกำไรปีหน้าไว้ ภายใต้สมมติฐาน credit cost อยู่ที่ 185bps ซึ่งสูงกว่า credit
cost ปกติโดยเบื้องต้นอยู่ที่ 140-160bps ดังนั้น เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายโดยใช้ PBV ที่ 0.65x เพื่อให้
ได้ราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 162 บาท และคงคำแนะนำถือ KBANK
Risks
การเพิ่มขึ้นของ NPL และ credit cost