วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

วันพุธที่ผ่านมาดัชนีพักตัวออกข้างระหว่างวัน ก่อนปรับตัวลงแรงมากสุดราว 18 จุด ในช่วงท้ายตลาด หลัง “ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้เงินบาทอ่อนค่าจากนโยบาย American First กดดัน Fund Flow นักลงทุนต่างชาติไหลออก

อีกทั้งความกังวลในนโยบายการค้าของสหรัฐ เป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และไอซีที อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อมากในหุ้น DELTA ช่วยหนุนดัชนีปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,467.42 จุด -14.25 จุด -0.96% มูลค่าการซื้อขาย 57,226 ลบ. Program Trading -3,255 ลบ. ต่างชาติ -1,782 ลบ. TFEX +3,185 สัญญา ตราสารหนี้ -3,522 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1,508.05 จุด หรือ +3.57% โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 68.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
+ ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSB) ของไต้หวัน แสดงความมั่นใจว่า สหรัฐอเมริกาจะยังคงความเป็นมิตรกับไต้หวันต่อไปหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะเดียวกัน ไต้หวัน จะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้จีน "ก่อปัญหา" ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลสหรัฐฯ
+ กกร.ประเมินว่า GDP ไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 2.6-2.8% จากเดิมที่คาด 2.2-2.7% เพราะได้รับแรงขับเคลื่อนจากการส่งออก ประกอบกับรัฐบาลกระตุ้นกำลังซื้อเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและมีมาตรการทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ที่กำลังทยอยออกมา

ปัจจัยลบ 

 

- สัญญาน้ำมันดิบลดลง 30 เซนต์หรือ -0.42% ปิดที่ 71.69 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่า ของสกุลเงินดอลลาร์ และสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
- สนค. เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ซึ่งบ่งชี้ภาวะ เงินเฟ้อเดือน ต.ค.67 สูงขึ้น 0.83%MoM เป็นผลจากการสูงขึ้นของราคาอาหาร โดยเฉพาะผักสดและผลไม้สด ประกอบกับ ราคาน้ำมันดีเซลและค่าไฟฟ้าสูงขึ้น เนื่องจากฐานราคาปีก่อน ต่ำกว่า จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ 10M67 ดัชนี CPI สูงขึ้น 0.26%
- กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนเปิดเผยในว่าอดีตเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาลรายหนึ่งได้รับโทษประหารชีวิต ฐานทำ "ความลับของรัฐ" รั่วไหล หลังจากถูกกล่าวหาว่ามอบแฟลชไดรฟ์ที่บรรจุข้อมูลลับให้กับหน่วยข่าวกรองของต่างชาติ

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดภูมิภาค โดยมีแรงกดดันจากความกังวลในนโยบายทางการค้าของสหรัฐ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,460-1,475 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• สินค้าส่งออกเดือนก.ย.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH STGT WFX
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSP GULF BGRIM GPSC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : TIDLOR GULF GPSC BGRIM SIRI SC SPALI
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

ITC "ซื้อ" ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 29.50 บาท upside 29%
"กำไร 3Q67 ฟื้นตัวแรง 51%YoY แต่ลดลง 3%QoQ"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

งวด 3Q67 กำไรสุทธิ 976 ล้านบาท +51%YoY -3%QoQ โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 30% ทรงตัว QoQ ปรับดีขึ้นมากจาก 19% ใน 3Q66 อัตรากำไรสุทธิ 22% ทรงตัว QoQ ปรับดีขึ้นจาก 16% ใน 3Q66 งวด 9M67 มีกำไรสุทธิ 2,807 ล้านบาท +85%YoY เนื่องจากคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยอดขายในทวีปอเมริกา +21% และยุโรป +75% ต้นทุนผลิตลดลง และการกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง

ผู้บริหารปรับเป้าการดำเนินงานปี 67 ใหม่โดยปรับอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นสู่ 26-28% จากเดิม 24-26% แต่ปรับลดเป้าการเติบโตของรายได้จากการขายเหลือ 15-17% จากเดิม 18-19% โดยยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อภาพรวมการดำเนินงานในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้จากอัตราการทำกำไรที่ปรับดีขึ้นจากปีก่อนหน้า การบริหารความเสี่ยงด้าน อัตราแลกเปลี่ยนที่ทำได้ดี ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 เฉลี่ย 3,755 +65%YoY (กำไร 9M67 คิดเป็น 75%) และเติบโตต่อเนื่อง 4,140 ล้านบาทในปี 68 ราคาหุ้นแม้ปรับขึ้น 9%YTD ซื้อขายที่ P/E 19x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 35x โดยยังมี upside อีกราว 29% จากราคาเหมาะสม Consensus แนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) AMATA (Bloomberg Consensus 30.27 บาท) โชว์ฟอร์มยอดขายที่ดิน 9 เดือนแรก 2567 ทะลุเป้าหมายปี 2567 ตั้งไว้ที่ 2,000 ไร่แล้ว คาดสิ้นปี 2567 จะมียอดขายเพิ่มเป็น 2.5 พันไร่ ส่งผลยอดโอนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย พร้อมส่องแนวโน้มยังเป็นขาขึ้น เล็งปี 2568 คาดโตต่อ พบสัญญาณลูกค้าจีนแห่เข้ามาเลี่ยงผลกระทบสงครามการค้า เก็ง "โดนัลด์ ทรัมป์" คว้าชัยเลือกตั้ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) OR (Bloomberg Consensus 17.75 บาท) บิ๊ก OR ลุยขยาย OR Space คอมมูนิตี้มอลล์ ตอบโจทย์คนเมือง ไร้บริการน้ำมัน ดึงพันธมิตรร่วมเปิดให้บริการ ชี้ทราฟฟิกจะสูง ผลตอบแทนลงทุนไม่ต่างจาก "ปั๊มพีทีทีสเตชั่น" ปักธงปีหน้าเปิด OR Space 10 สาขา มั่นใจธุรกิจจะฮอต เหตุเชี่ยวชาญ แย้มกำลังดีลพันธมิตรแบรนด์ดังหลังเลิก เท็กซัส ชิคเก้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TU (Bloomberg Consensus 17.95 บาท) โชว์ผลงานไตรมาส 3/2567 กำไรทะลุ 1.4 พันล้านบาท กวาดยอดขายกว่า 3.48 หมื่นล้านบาท หนุนจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ระบุอัตรากำไรขั้นต้นทำนิวไฮที่ระดับ 19.5% ชูอาหารสัตว์เลี้ยงมีอัตรากำไรสูง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบลดลง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HL (Bloomberg Consensus - บาท) กางแผนงานรุกขยายธุรกิจต่างประเทศ โซนเอเชีย และตะวันออกกลาง พร้อมคลอดโปรดักต์ใหม่ รองรับการเติบโตในปีหน้า ลุยขยายช่องทางทำเงินผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทั้ง ช้อปปี้ ลาซาด้า และ TikTok หวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ แย้มแผนปีหน้าเร่งขยายเพิ่มขึ้นเท่าตัว (ที่มา ทันหุ้น)